“เมา” เหตุหลักตายภูเก็ต ผู้การชี้ ตร.ทำได้แค่บังคับใช้กฎหมาย คนทำผิดก็รับโทษอดเที่ยวสงกรานต์ไปตามระเบียบ

ภูเก็ต - พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต เมื่อต้นสัปดาห์ว่าอุบัติเหตุของจังหวัดภูเก็ต มีสาเหตุหลักมาจากการขับขี่ขณะมึนเมา การใช้ความเร็ว รวมไปถึงการฝ่าฝืนเครื่องหมายและสัญญาณจราจร พร้อมกับชี้แจงว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำอะไรไม่ได้มากนอกจากบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและจับกุมผู้กระทำผิดทุกราย

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันศุกร์ ที่ 13 เมษายน 2561, เวลา 14:00 น.

ภาพ ธัญลักษณ์ สากูต

ภาพ ธัญลักษณ์ สากูต

“ผมได้สั่งให้ตำรวจจราจรได้เข้มงวดกวดขันเรื่องของการจับกุมโดยเฉพาะเรื่องเมาและเรื่องการใช้ความเร็วมาก่อนหน้านี้แล้วตลอดเดือนมีนาคม ซึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน นี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษ” พล.ต.ต.ธีระพล กล่าว

“ต้องขอเรียนว่าคนไทยเรามีความรักสนุก พวกเรารู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด แต่จะเลือกปฏิบัติอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับบางคนพอเหล้าเข้าปากก็ลืมทุกอย่าง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้กฎหมายเข้ามาบังคับเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุจากสาเหตุ “เมาแล้วขับ” ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตมากมาย”

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้เปิดเผยตัวเลขจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บบนท้องถนน ในปี 2559 และ 2560 กับ ข่าวภูเก็ต โดยสรุปได้ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 32 คนในปี 2560 รวมถึงจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและบาดเจ็บเล็กน้อยอีกด้วย

จากตัวเลขปี 2559 ที่มีผู้เสียชีวิต 102 คน แบ่งเป็นชาย 87 หญิง 15 เพิ่มเป็น 134 คนในปี 2560 เป็นชายเสียชีวิต 100 คนและหญิง 34 คน ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บสาหัสในปี 2559 อยู่ที่ 163 คน ชาย 113 หญิง 50 บาดเจ็บเล็กน้อย 5,754 ชาย 3,639 หญิง 2,115 สำหรับปี 2560 ผู้บาดเจ็บสาหัสบันทึกที่ 265 คน ชาย 185 หญิง 80 บาดเจ็บเล็กน้อยทั้งสิ้น 5,882 คน เป็นชาย 3,315 และหญิงจำนวน 2,567 คน

นอกจากนี้ แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจร ภาคใต้ ในนามภาคีเครือข่ายดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดภูเก็ต ก็ได้เปิดเผยว่า จากสถิติ 3 ปี ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานและกลุ่มวัยรุ่น ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะถึงร้อยละ 80 ซึ่งในกลุ่มผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนกว่าร้อยละ 90 เพราะไม่สวมหมวกนิรภัย (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

“ไม่ใช่เพียงคนไทยเท่านั้น นักท่องเที่ยวบางรายทั้งจากเอเชียและฝั่งตะวันตกที่เมื่อดื่มจนได้ที่ก็ไร้ความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นเช่นกัน บางคนดื่มจนเมามายแล้วยังฝืนขับรถ ที่ผ่านมาผมได้สั่งการให้ควบคุมดูแลการกระทำผิดในลักษณะที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินมาตลอดอยู่แล้ว แต่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้นไปอีก เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาภูเก็ตเป็นจำนวนมาก ล่าสุดมีข้อมูลระบุว่านักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาวันละกว่า 5 หมื่นคน เพดานสูงสุดที่เรามีตอนนี้คือ 6.5 หมื่นคน” พล.ต.ต.ธีระพล อธิบาย

“ผมหวังว่าในช่วงสงกรานต์จำนวนคนเมาจะลดน้อยลง ทางเจ้าหน้าที่เราต้องใช้มาตราการตามกฎหมาย รวมถึงการนำพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาใช้เพิ่มด้วย เราจะพยายามให้สถิติอุบัติเหตุในปีนี้ลดลงจาก มีผู้เสียชีวิต 4 รายในปีที่ผ่านมาให้เหลือศูนย์(0) โดยการบูรณาการกับหน่วยงานอื่น ๆ เช่นแขวงการทาง ที่เข้าไปทำเรื่องจุดเสี่ยงต่าง ๆ และตามสถานีขนส่งก็ได้เข้าไปเข้มงวดกวดขันกับยานยนต์ประเภทต่าง ๆ ตามพรบ.ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่ อันเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน” พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวเพิ่มเติม

และเพื่อเป็นการดำเนินการตามมาตรการและแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ (11-17 เม.ย.) ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดให้มีการจัดตั้งจุดตรวจหลัก / จุดตรวจรอง และจุดบริการช่วงสงกรานต์ ทั้งสิ้น 11 จุดตรวจหลักใน อ.เมืองภูเก็ต อ. ถลาง และ อ.กะทู้ โดยกำหนดเป็น 4 จุด, 4 จุด และ 3 จุด ตามลำดับ รวมทั้งจุดตรวจรอง 14 จุด ทั่วเกาะโดยเน้นที่ อ.ถลาง ซึ่งมีจุดรอง 7 จุด (ซ้ำกับจุดหลัก 2 จุด) จุดตรวจรองที่ อ.กะทู้ 5 จุด อ.เมืองภูเก็ต 2 จุด และจุดบริการกระจายอยู่ในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ พร้อมกับกำหนดจุดเล่นน้ำเอาไว้ 8 จุด (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ด้านนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตกำหนดดำเนินกิจกรรมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเลช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนเดินทางสัญจรไปมาอย่างปลอดภัยและมีความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์และเพื่อลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเลจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้น้อยที่สุดโดยจังหวัดได้จัดทำแผนเฉพาะกิจและคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุถนนและทางทะเล ทั้งนี้การรณรงค์ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการเกิดอุบัติเหตุโดยเร็ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละวัน ให้มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุดต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธีระพล ได้กล่าวถึงความห่วงใยในส่วนของการอำนวยความสะดวกการจราจร เพราะจะมีเหตุการณ์รถติดทุกปี โดยอธิบายว่า ในตอนเช้าจะเกิดขึ้นที่สะพานหิน และซอยศาลเจ้าตาเอียดในพื้นที่ ต.ฉลอง ส่วนป่าตองจะเป็นช่วงตอนบ่ายถึงค่ำ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังไว้อย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนการจราจร

รวมไปถึงการป้องกันและปราบปรามงานอาชญากรรม ที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท โดยจะเน้นเรื่องอาวุธ ยาเสพติด และหมายจับต่าง ๆ และประเด็นปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวอย่างป่าตอง เนื่องจากว่าจะมีกลุ่มคนเข้ามาในช่วงนั้นเป็นจำนวนมาก

“เราเล่นกัน แค่ 12 กับ 13 โดยจะเล่นในตอนบ่ายและกลางคืน ซึ่งทางผมเองก็ได้สั่งให้กำลังของตำรวจสืบสวนของ ภ.จว.ภูเก็ตไปเสริมด้วยเพื่อควบคุมในเรื่องของคนเมา เรื่องของการทะเลาะวิวาท เรื่องของการอนาจาร การเล่นน้ำที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม อีกส่วนหนึ่งก็เกี่ยวกับความมั่นคง เกี่ยวกับผู้ไม่หวังดี ในการก่อความไม่สงบต่าง ๆ” พล.ต.ต.ธีระพล กล่าว

“มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังภูเก็ตเป็นจำนวนมาก และด้วยตัวเลขที่มากขึ้นจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุก็จะเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อมาท่องเที่ยวผู้คนก็ต้องเดินทาง ฉะนั้นโปรดดูแลรักษาตัวท่านให้ดี เมาไม่ขับ รักษากฎระเบียบวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและเพื่อนร่วมถนน หากท่านไม่ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองแล้ว แทนที่จะได้เที่ยวสงกรานต์อย่างสนุกสนาน ท่านอาจจะต้องมาใช้เวลาที่สถานีตำรวจหรือโรงพยาบาล ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุขและปลอดภัยในเทศกาลสงกรานต์วันปีใหม่ไทย” พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวทิ้งท้าย

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่