ซึ่งการแข่งขันกีฬาแห่งเอเชียนในครั้งนี้ ที่ทำการชิงชัยระหว่างวันที่ 18 ส.ค. - 2 ก.ย. ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการแข่งขันเพื่อชิงทั้งสิ้น 26 เหรียญทอง ซึ่งทัพนักกีฬาไทยมีลุ้นเหรียญจากหลายชนิดกีฬา
สำหรับกีฬาคาราเต้มีชิง 4 ทอง มนสิชา สามารถคว้าเหรียญทองเเดงให้กับทีมคาราเต้ไทยได้สำเร็จ โดยรอบ 16 คน เจ้าตัวได้บาย ลงเล่นรอบ 8 คน เอาชนะ ลี เซลิน ซิน ยี ของมาเลเซีย 3-2 น่าเสียดายที่ต้องพ่ายให้กับ ซู ซอย ลัม จากมาเก๊า 1-4 ในรอบตัดเชือก และหล่นไปชิงเหรียญทองเเดง
ในรอบชิงเหรียญทองเเดง เธอสามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมา โชว์ร่ายรำสุดดุดัน เอาชนะ ดานุวาร์ ชันชาลา ของเนปาล 5-0 ซิวเหรียญทองเเดงให้ทัพไทย ถือเป็นเหรียญเเรกของทีมคาราเต้ไทย ในศึกเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ ข่าวประชาสัมพันธ์ สมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย (Thailand Karate Federation) รายงานเพิ่มเติมอีกว่า "น้ำผึ้ง" รู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถเข้าชิงเหรียญทองได้ เนื่องจากเกร็งและกดดันตัวมากไป แต่ก็รู้สึกภูมิใจมากที่ได้เหรียญทองแดงมาไว้ในมือตามเป้า หลังจากที่รวบรวมสติและมองข้อผิดพลาดตัวเอง จนกลับมาเล่นได้อย่างมั่นใจ
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โค้ชประจำสมาคมคาราเต้ แห่งประเทศไทย และมนสิชา ได้เข้ามาแนะนำตัวกับ สมาคมผู้สื่อข่าวภูเก็ต ซึ่งเธอเองได้กล่าวว่า เป็นเด็กภูเก็ตตั้งแต่กำเนิด และเริ่มสนใจกีฬาคาราเต้ ตั้งแต่ 7 ขวบ โดยเลือกไปเรียนเอง หลังจากนั้นก็เริ่มแข่งขันมาเรื่อย จนขณะนี้ได้รับคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติ และลุ้นเพื่อที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่มีการบรรจุการแข่งขันคาเรเต้-โด เป็นปีแรก พร้อมกับขอแรงใจสนับสนุนให้สามารถร่วมแข่งขันในรายการต่างๆ เพื่อเก็บคะแนนให้ได้ตามข้อกำหนดของโอลิมปิกต่อไป (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
และในวันนี้ที่เธอได้คว้าเหรียญเเรกให้กับทีมคาราเต้ไทย โดยน้ำผึ้งได้กล่าวขอบคุณทางสมาคมฯ และโค้ช ที่ช่วยสนับสนุนเธอจนสามารถคว้าเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาอันยิ่งใหญ่มาได้ ก่อนจะปิดท้ายด้วยน้ำเสียงแห่งความภาคภูมิใจว่า ''เเม่หนูทำสำเร็จเเล้ว หนูเอาเหรียญทองเเดงเหรียญนี้ไปเป็นของขวัญวันเกิดให้เเม่ได้เเล้วนะ''
อย่างไรก็ตาม นักคาราเต้สาวคนเก่งชาวภูเก็ต มีกำหนดการเดินทางถึงสนามบินภูเก็ต ในวันที่ 29 ส.ค. นี้ เวลา 20.30 น.
- สมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย