เบื้องต้นขยายเพิ่ม 15 จังหวัด รวมระยะนำร่องเป็น 17 จังหวัด แต่จะเปิดได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความพร้อมด้านสถานการณ์ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นได้เกินร้อยละ 70 เน้นไปที่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มที่มีโรคประจำตัวและหญิงตั้งครรภ์ ความพร้อมด้านสาธารณสุข อัตราการครองเตียงเหลืองแดงต้องไม่เกินร้อยละ 80 สัดส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะต้องไม่เกิน 5-10 คน ต่อจำนวนประชากร 1 คนต่อวัน ทำให้หลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบตามเงื่อนไขหรือพบการแพร่ระบาดกลับมาอีกครั้งจะต้องจัดการให้ตัวเลขลดลงและฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเปิดทุกจังหวัดตามแผนให้ได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน แต่หากจังหวัดใดที่มีความพร้อมมากกว่าก็เปิดได้ก่อน
"ประเทศไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกประเทศทั่วโลก ส่วนการยกเลิกหนังสือรับรองการเดินทางเข้าไทย (ซีโออี) ที่ได้รับเสียงร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติว่ามีขั้นตอนมากนั้น จะยกเลิกได้เมื่อ พ.ร.ก. ฉุกเฉินถูกยกเลิกแล้ว ขณะนี้จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถยกเลิกได้หรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ศบค. เป็นหลัก" นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ผู้ว่าการ ททท. กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ขั้นตอนปฏิบัติมาตรฐาน (เอสโอพี) จะเหมือนกันทั่วประเทศ แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว เดินทางมาจากประเทศความเสี่ยงต่ำและตรวจไม่พบเชื้อ สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศ แบบไม่กักตัว
ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่เดินทางมาจากประเทศความเสี่ยงระดับกลางขึ้นไป ต้องกักตัวในพื้นที่บลูโซน โดยสามารถเปิดกิจการ/กิจกรรมได้ทุกประเภท ยกเว้นสถานบริการ สถานบันเทิง และสถานบริการอื่นในลักษณะคล้ายกันที่ยังไม่อนุญาตให้เปิด รวมถึงห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน
และผู้ที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบโดส สามารถเดินทางเข้ามาได้ แต่ต้องกักตัวในสถานกักกันโรคที่รัฐบาลจัดสรรไว กรณีเดินทางผ่านเครื่องบิน กักตัว 10 วัน เดินทางผ่านทางบกกักตัว 14 วัน
ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์