แลนด์มาร์คใหม่ภูเก็ต ’ระเบียงกระจกหาดสุรินทร์’ งบ 196 ล้าน พร้อมเปิดต้นปี 68

ภูเก็ต - อบจ.ภูเก็ต ทำพิธีลงเสาเอกโครงการก่อสร้างระเบียงกระจกหาดสุรินทร์ ใช้งบก่อสร้าง 196 ล้านบาท รออีก 18 เดือน หรือต้นปี 68 ภูเก็ตจะมีแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่จะดึงนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้น

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 18 พฤศจิกายน 2566, เวลา 09:00 น.

โดยเมื่อวันที่ 9 ฑฤศจิกายน เวลา 09.09 น. องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) จัดพิธีลงเสาเอกโครงการก่อสร้างโครงการระเบียงกระจก หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต โดยมี นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน นายเรวัต อารีรอบ นายก อบจ, ภูเก็ต ผู้บริหาร สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่เชิงทะเล เข้าร่วม ณ พื้นที่โครงการก่อสร้างระเบียงกระจกหาดสุรินทร์ (แหลมตาหมา) ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ. ภูเก็ต

โครงการระเบียงกระจกหาดสุรินทร์ เป็นหนึ่งในโครงการที่ อบจ.ภูเก็ต โดยการนำของนายเรวัต อารีรอบ นายก อบจ.ภูเก็ตพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่บนเกาะภูเก็ต โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่จะเป็นแม่เหล็กในการดึงนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวคนต่างชาติให้เดินทางมาท่องเที่ยวและชื่นชมกับความสวยงามของธรรมชาติของหาดสุรินทร์ ผ่านทางระเบียงกระจกแห่งนี้ รวมไปถึงเพื่อเสริมสร้างให้คนในพื้นที่เชิงทะเลและภูเก็ตมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวในแลนด์มาร์คแห่งใหม่นี้ด้วย

ระเบียงกระจกหาดสุรินทร์ ตั้งอยู่บนเชิงเขาลาดชัน ชื่อ “แหลมตาหมา” บนเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลอันดามันและหาดสุรินทร์ได้อย่างสวยงาม ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 196 ล้านบาท และใช้เวลาก่อสร้างประมาณแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568


บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด ผู้ออกแบบระเบียงกระจกหาดสุรินทร์ ให้ข้อมูลว่า บริษัททำการออกแบบภายใต้แนวคิดหลัก คือ “ท้องทะเลและวิถีชีวิตชาวภูเก็ต” โดยมุ่งเน้นให้พื้นที่ออกแบบเป็นพื้นที่ของเมืองและแหล่งท่องเที่ยว โดยนำท้องทะเลกับอัตลักษณ์ของพื้นที่และวิถีชุมชนของชาวภูเก็ตเข้ามาผสมผสาน ซึ่งโครงการประกอบด้วย จุดชมวิวระเบียงกระจก 2 จุด ขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 8.30 เมตร ยาวไม่น้อยกว่า 33.90 เมตร หอชมวิว สูง 3 ชั้น ขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 11.00 เมตร ยาวไม่น้อยกว่า 13.00 เมตร สูง. 18 เดือน โดยตามสัญญาของผู้รับเหมา กำหนดไม่น้อยกว่า 12.45 เมตร พร้อมด้วยอาคารบริการและห้องน้ำสาธารณะ และปรับปรุงภูมิทัศน์ ก่อสร้างทางเดิน ลานกิจกรรม กำแพงกันดิน และปลูกไม้ยืนต้นไม้พุ่มไม้คลุมดินเพื่อความสวยงามอีกด้วย

นอกจากนี้ อบจ.ภูเก็ต ยังมีโครงการที่จะก่อสร้างสะพานกระจก หรือสกายวอล์ก ที่บริเวณเขาแดง ใกล้ๆ กับสนามฟุตบอลตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.เก็ต เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของภูเก็ต ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้เช่นกัน

สำหรับโครงการสกายวอล์ก “สะพานกระจกเขาแดง” มีจุดก่อสร้างที่บริเวณเขาแดง หมู่ 6 ต. ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต โดย อบจ.ภูเก็ตได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดของโครงการไปพร้อม ๆ กับการขอใช้พื้นที่สาธารณะกับทางจังหวัดภูเก็ตและกรมป่าไม้ ซึ่งขั้นตอนการขออนุญาต กำหนดแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ส่วนการออกแบบนั้นกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2565

“ทาง อบจ.ได้ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษานำเสนอรูปแบบของสะพานกระจกที่บริเวณเขาแดง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ตำบลราไวย์ ในการนำไปปรับปรุงในส่วนของการออกแบบต่อไป โดยในเบื้องต้นนั้นคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 250 ล้านบาท” นายเรวัต กล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565

ด้านบริษัทที่ปรึกษาได้นำเสนอรูปแบบสะพานกระจก ที่บริเวณเขาแดง โดยนายณัฐฉัตร ฮึงวัฒนากุล ผู้จัดการโครงการออกแบบสะพานกระจก กล่าวว่า การออกแบบสะพานกระจกแห่งนี้ ในเบื้องต้นได้ออกแบบไว้ 3 รูปแบบด้วยกัน คือ สไตล์ชิโนโปรตุกีส ไข่มุกแห่งอันดามัน และประตูสู่อันดามัน ซึ่งรูปแบบที่มีความเหมาะสมและสอดรับกับสภาพพื้นที่มากที่สุด คือ ประตูสู่อันดามัน โดยมีแนวคิดการออกแบบภาพลักษณ์อาคาร เป็นการส่งเสริมให้โครงการนำพาเมืองภูเก็ตไปสู่สายตาชาวโลก คล้ายการโบยบินอย่างมีอิสรภาพ จึงได้นำแนวคิดความพลิ้วไหวของปีกนักอินทรีมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ ที่ดูเบาและโปร่ง มีส่วนที่เป็นช่องลม รู้สึกเบาสบายของโครงสร้างเพื่อเปิดมุมมองสู่ทะเลอันดามัน พร้อมโบยบินไปสู่โลกกว้าง ที่มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ รองรับการใช้งานได้หลากหลาย

โดยเป็นทางเดินลอยฟ้า หรือ Sky Walk ที่ตื่นตาตื่นใจ และหวาดเสียว เป็นสะพานกระจกที่ยื่นออกไปจากหน้าผาประมาณ 10 เมตร และยกระดับตัวทางเดินให้สูงขึ้นไปจากระดับทางเดิน เพื่อให้เกิดความหวาดเสียวมากยิ่งขึ้น สามารถรองรับได้ครั้งละ 50 คน และพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ ทั้งในส่วนของลานกิจกรรม พื้นที่สำหรับชุมชน ห้องประชุม และพื้นที่บริการนักท่องเที่ยวต่างๆ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 250 ล้านบาท

นายเรวัต กล่าวว่า เชื่อว่าเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ จะกลายเป็นแลนด์มาร์คที่ดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวภูเก็ต จะเป็นการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ราไวย์และภูเก็ต เพราะสะพานกระจกแห่งนี้จะถูกออกแบบให้มีความสวยงาม ตื่นเต้น และหวาดเสียว สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองโครงการดังกล่าว ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประชาชนที่ร่วมแสดงความคิดเห็น เห็นด้วยกับโครงการที่จะเพิ่มจุดท่องเที่ยวในพื้นที่ทั้งสองแห่ง และทาง อบจ.ภูเก็ต จะได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการที่สองในโอกาสต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่