แทงโหดหัวหน้าแม่บ้าน หอบร่างเปื้อนเลือดขอความช่วยเหลือแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวดับคาบันได ตร.เร่งล่าตัวคนร้าย

ภูเก็ต - วานนี้ (8 ม.ค. 61) เมื่อเวลา 17.20 น. ร.ต.อ.ชาตรี ชูวิเชียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดทำร้ายหญิงสาวบริเวณริม ถ.สายดาวรุ่งตัดใหม่-ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก หมู่ 2 ต.วิชิตได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ววิ่งเข้าไปภายในเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตคาราวบันได

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 9 มีนาคม 2561, เวลา 10:29 น.

ก่อนนำกำลังชุดสืบสวน-สายตรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ต ตลอดจนมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต-มูลนิธิร่วมใจกู้ภัยภูเก็ตรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนสายเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองกับถนนเลี่ยงเมืองบริเวณริมถนนห่างจากอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวไปเล็กน้อย พบรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนภูเก็ตจอดอยู่บนทางเท้า สภาพด้านหน้าฝั่งซ้ายพุ่งชนพุ่มไม้สวนหย่อมและเสาไฟฟ้าข้างทาง ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนบริเวณตัวถังรถด้านขวาใกล้ไฟท้ายหลัง พบคราบเลือดไหลหยดเป็นทาง บริเวณพื้นถนนพบหมวกแก๊ปสีดำตกอยู่ ส่วนที่พื้นทางเท้ามีคราบเลือดและรอยยางที่เกิดจากการเบรกเป็นทางยาว จากนั้นได้ไปตรวจสอบบริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว พบศพหญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงิน ที่คอห้อยบัตรพนักงาน นุ่งกางเกงขายาวสีดำนอนหงายจมกองเลือด

สภาพศพถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ 4-5 แผล หน้าผาก 1 แผล ใต้ราวนมซ้าย 1 แผล ทราบชื่อคือ นางละมัย โชคเกื้อ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 4 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดบริษัททำความสะอาดแห่งหนึ่ง โดยบริเวณบันไดแต่ละขั้น ตั้งแต่ชั้นล่างเรื่อยมาจนถึงชั้น 2 ตลอดจนราวบันไดมีคราบเลือดติดอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงเก็บหลักฐานต่าง ๆ เช่น ภายในรถเก๋งที่พุ่งชนต้นไม้หน้าอพาร์ทเม้นท์ หมวกแก๊ปและบริเวณจุดที่พบศพ โดยมูลนิธินำศพส่ง รพ.วชิระภูเก็ตเพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง

ร.ต.อ.ชาตรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดของร้านค้าบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุพบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีรถเก๋งโตโยต้าวิ่งเข้ามาจอดบริเวณริมถนน โดยมีชายจำนวน 1 คนวิ่งตามรถมา จากนั้นได้เปิดประตูรถแล้วพยายามจะลากคนขับออกจากรถ แต่คนขับไม่ยอมและพยายามเร่งเครื่อง เพื่อขับรถออกจากจุดดังกล่าว จนรถปีนทางเท้า จากนั้นพุ่งไปชนพุ่มไม้และเสาไฟฟ้า จนรถสงบนิ่งติดอยู่กับเสาไฟฟ้าในที่สุด โดยคนขับได้วิ่งออกจากรถ และมีชายคนดังกล่าววิ่งตามไป โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้เพียงเท่านี้ ซึ่งคนขับ คือ นางละมัย ถูกแทงได้รับบาดเจ็บและพยายามวิ่งเข้าไปที่อพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในที่สุด เบื้องต้นคนร้ายเป็นชายสูงอายุ มีผมน้อยบนศีรษะ สวมเสื้อยืดสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว หลังผู้ก่อเหตุได้ขี่รถ จยย.ยาม่าฮ่าฟีโน่สีฟ้า-ขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไปทางศาลเจ้านาคาออกสู่ ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิตแล้วหายตัวไป

พร้อมกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะที่สาเหตุเบื้องต้นคาดว่า ก่อนเกิดเหตุนางละมัยขับรถเก๋งคันดังกล่าวมาจากสี่แยกศาลเจ้านาคา มุ่งหน้าไปสี่แยกดาวรุ่ง เมื่อรถเก๋งขับมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นางละมัยได้หยุดรถบริเวณกลางถนน โดยมีรถ จยย.ฮอนด้าสกูปี้สีฟ้าขาวของชายกลางคนเป็นคนขี่จอดขวางรถของนางละมัยไว้ จากนั้นชายกลางคนได้เดินลงไปเปิดประตูรถและชกต่อยนางละมัยที่นั่งอยู่บริเวณเบาะคนขับ ทำให้นางละมัยพยายามขับรถออกจากจุดนั้นจนรถเสียหลักพุ่งชนพุ่มไม้และเสาไฟฟ้าข้างทาง และลากรถ จยย.ของชายกลางคนไปด้วย จากนั้นชายกลางคนได้กระชากนางละมัยลงจากรถแล้วใช้มีดกระหน่ำแทง นางละมัยได้วิ่งหอบร่างที่เปื้อนเลือดไปขอความช่วยเหลือคนที่อยู่ในอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตคาบันไดชั้น 2 เบื้องต้นชายกลางคนที่ลงมือก่อเหตุต้องสงสัยอาจเป็นอดีตสามีเก่าที่เพิ่งแยกกันไปเมื่อ 2 เดือนก่อน และที่ผ่านมาอดีตสามีมักตามมาหาเรื่องนางละมัยอยู่เป็นประจำ ซึ่ง

จากการสอบถามบุตรสาวของนางละมัยที่เกิดจากอดีตสามีเก่ายืนยันว่าหมวกแก๊ปที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นของพ่อตนเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวอดีตสามีมาสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่