นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ถึงกรณีคำสั่งจังหวัดภูเก็ตอนุญาตร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้บริโภคในร้านได้ตามปกติ โดยจำหน่ายและดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ไม่เกิน 22.00 น. และสามารถเล่นดนตรีได้โดยจำกัดจำนวนนักดนตรี ไม่เกิน 5 คน โดยนักดนตรีต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา นักร้องถอดหน้ากากอนามัยได้เฉพาะขณะร้องเพลงหรือแสดง ห้ามสัมผัสคลุกคลีกันระหว่างนักร้องนักดนตรีและลูกค้า มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า การที่จังหวัดภูเก็ตอนุญาตให้มีการดื่มแอลกอฮอล์ได้ในโรงแรมและร้านอาหาร รวมถึงอนุญาตให้ร้านอาหารที่มีดนตรีสด สามารถทำการแสดงได้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการผลักดันของภาคเอกชน
“ทางหอการค้าและภาคเอกชนภูเก็ตมองว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในโรงแรมและร้านอาหาร รวมถึงร้านอาหารที่มีดนตรีสด ไม่มีผลอะไรต่อการติดเชื้อ และเราก็ได้พิสูจน์แล้วว่า มันไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการระบาดของโควิด-19” นายธนูศักดิ์ กล่าว
“เพราะฉะนั้นการที่ทางศบศ. และทางรัฐบาลอนุโลมให้ภูเก็ต สามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้จนถึง 4 ทุ่ม ในร้านอาหารต่าง ๆ รวมไปถึงดนตรีต่าง ๆ ที่เล่นได้ไม่เกิน 5คน ภายใต้มาตรการ D-M-H-T-T-A ทางภาคเอกชนและหอการค้าเองรู้สึกยินดี และคิดว่านักท่องเที่ยวที่มากับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก็คงจะได้มีความสุข”
“เนื่องจากว่าเขามาเพื่อพักผ่อน ซึ่งการดื่มกินที่โรงแรมหรือในร้านอาหารไม่ได้เป็นประเด็นที่ทำให้การระบาดของเชื้อโรคใด ๆ ก็คิดว่าการผ่อนผันและความเข้าใจในโครงสร้างของภูเก็ต หรือภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในครั้งนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก” นายธนูศักดิ์ กล่าว
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เชื่อว่าหากการผ่อนคลายสำหรับโรงแรมและร้านอาหารดำเนินไปได้ด้วยดี และตัวเลขการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดลง ก็จะนำไปสู่การเปิดให้บริการของผับบาร์ในภูเก็ตต่อไป
“มันเป็นธรรมชาติของการท่องเที่ยวพักผ่อน นักท่องเที่ยวมีวันหยุดพักร้อนมาแล้ว ก็ต้องมาใช้ชีวิตและมีการดื่มกินเป็นธรรมดา ในอดีตที่เราไม่ให้ดื่ม เราได้รับการคอมเพลนเยอะมาก ทั้งที่โรงแรม ร้านอาหาร และนักท่องเที่ยวตัดสินใจว่าจะไม่มา เพราะด้วยปัจจัยที่ไม่ให้พวกเขาดื่มเป็นหลัก”
“เพราะฉะนั้นการผ่อนคลายเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ และเป็นสิ่งที่ควรทำมานานแล้ว ซึ่งเราเรียกร้องมาเกือบสองเดือน และเราก็หวังว่ามันจะกลับมาเป็นการท่องเที่ยวที่ใกล้เคียงกับปกติให้มากที่สุด สำหรับเงื่อนไขที่เราตั้งมาเยอะ เข้าใจว่ามันป้องกันโควิดได้ ระงับการแพร่ระบาดได้ แต่มันก็จะเป็นการยับยั้งไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาด้วย” นายก้องศักดิ์ กล่าว
“ถ้าทางการมีสถิติ ตัวเลข และข้อมูลเชิงวิชาการที่เพียงพอ ให้เราผ่อนปรนผ่อนผันในทุก ๆ เรื่องได้ เราก็อยากจะให้มีการผ่อนคลาย สำหรับผับบาร์อาจจะเป็นเฟสต่อไป ซึ่งถ้าเฟสนี้ผ่อนคลายในเรื่องร้านอาหารที่มีแอลกอฮอล์ และร้านอาหารประเภทที่มีดนตรีสดได้ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น ถ้าเป็นไปได้ด้วยดีไม่มีการระบาด ก็จะทำให้ผับบาร์ภูเก็ตเปิดเป็นเฟสต่อไปได้”
ทางด้าน นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า ปัจจุบันสถานประกอบการบนถนนบางลานับร้อยแห่ง สามารถเปิดให้บริการเพียงไม่กี่แห่ง และแม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนน้อย แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
“ที่เปิดอยู่ตอนนี้คือเป็นร้านที่มีใบอนุญาต เช่น ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ แต่ก็อยู่ที่เจ้าหน้าที่ด้วยที่มีการอะลุ้มอล่วยกันในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เพราะไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการก็ไปต่อกันไม่ได้ ตอนนี้มาตรการต่าง ๆ ช่วยให้ผู้ประกอบการไปต่อกันได้ ดีกว่าไม่เริ่มอะไรเลย ต่อให้ปิดแค่ 4 ทุ่ม พวกเราก็พยายามที่จะบอกกับนักท่องเที่ยวว่า ขอให้มาเร็วกว่าปกติ เพราะในช่วงนี้ไม่สามารถเปิดดึกได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงของมาตรการการควบคุมโรค”
ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม ที่คำสั่งจังหวัดที่ 5896/2564 จะมีผลบังคับใช้ ผู้ประกอบการและพนักงานทุกคนที่ทำงานภายในถนนบางลา ได้รับการสว็อบตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้นจะมีการสว็อบตรวจหาเชื้อครั้งต่อ ๆ ไป ทุกสัปดาห์ พร้อมไปกับการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด
“ทุกคนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่าง มีการจัดจุดตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยว และพนักงานที่เข้ามาทำงานในบางลา” นายวีรวิชญ์ กล่าว “ในเรื่องของมาตรการต่าง ๆ ตอนนี้เราค่อนข้างเข้มงวด เพราะอย่าลืมว่าที่ผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้วผู้ประกอบการสถานบันเทิงโดนหนักสุด ฉะนั้นทุกคนก็จะพยายามระวังไม่ให้เกิดซ้ำอีกครั้ง เพราะถ้าเกิดซ้ำอีกครั้งก็คงไปกันไม่ได้”
ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจว่าขณะนี้ตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่จังหวัดภูเก็ตยังคงอยู่ที่หลักร้อย และสถานประกอบการขนาดใหญ่อาจจะยังเปิดไม่ได้ เพราะหากเปิดแล้วเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่มันก็ไม่คุ้ม แต่ขอให้ภาครัฐเยียวยาผู้ประกอบการกลุ่มนี้บ้าง
“ตอนนี้ผับกึ่งร้านอาหารเริ่มเดินต่อกันไปได้แล้ว แต่ในส่วนของดิสโก้เทคขนาดใหญ่หรือผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆ ที่เขาไม่สามารถประกอบกิจการได้ ก็ควรที่จะมีอะไรที่เยียวยาเขาบ้าง”
“และสุดท้ายอย่าลืมว่าถนนบางลาสร้างชื่อเสียง และนักท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ที่เข้ามาเขาก็อยากสัมผัสบรรยากาศ ซึ่งตั้งแต่วันแรกที่มีการผ่อนคลายก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะพอสมควร ก็ถือเป็นว่าเป็นการตอบโจทย์ อาจจะไม่ได้ 100% แต่มันเชื่อมโยงกับกลุ่มตุ๊กตุ๊ก กลุ่มแท็กซี่ กลุ่มร้านอาหาร ร้านค้าปลีกย่อยต่าง ๆ และมันก็ช่วยให้พวกเขามีรายได้ขึ้นมา” นายวีรวิชญ์ กล่าว
