โดยมี น.อ.เกรียงไกร ลายเงิน หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามระเบียบที่กำหนด เจ้าหน้าที่มีขวัญและกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติงาน
พลเรือโท เชิงชาย กล่าวว่า สถานการณ์ในช่วงการประกาศปิดช่องทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ของจังหวัดภูเก็ต เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 นั้น จังหวัดภูเก็ต ได้อนุญาตให้ใช้ท่าเรือในการประมงขนส่งอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และไม่อนุญาตให้เรืออื่นเข้ามาทำกิจกรรมในภูเก็ต ดังนั้น อาชีพการประมงเป็นอาชีพที่ยังดำเนินการได้ มีผลต่อเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตโดยตรง และยังไม่มีผลกระทบกับปัญหาโควิด-19 อีกทั้งกรมประมงมีมาตรการในการป้องกันเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้ออกมาตรการตรวจเรือทางวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ และทางแอปพลิเคชั่นไลน์ เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่สัมผัสการติดเชื้อจากผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งต้องมีการตรวจเรือโดยศูนย์ PIPO
ศรชล.ภาค 3 จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการตรวจเรือประมง ต้องระมัดระวังให้มีอุปกรณ์ในการป้องกัน โดยศรชล.ภาค 3 ได้นำอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด-19 ประกอบด้วย เฟซชิลด์ แอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ มอบแก่ศูนย์ PIPO ภูเก็ต เพื่อใช้ในการป้องกันตนเอง และให้ศูนย์ PIPO ภูเก็ตแจ้งกลุ่มเรือประมง มีมาตรการในการป้องกันเรือ และผู้มาใช้ท่าเรือไม่นำกลุ่มเสี่ยงเข้ามาในพื้นที่
ปัจจุบันมีเรือประมงเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต วันละประมาณ 240 ลำ มีการตรวจเรือวันละ 90 ลำ มีเรือกลุ่มเสี่ยงต้องตรวจวันละ 1-2 ลำ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต่อเนื่อง โดยรักษาระยะห่างใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชั่นไลน์ร่วมในการตรวจ
"ขณะนี้หลายจังหวัดในฝั่งทะเลอันดามัน ได้มีการคัดกรองเรือประมง โดยห้ามเรือประมงต่างถิ่นเข้าไปในพื้นที่ในช่วงนี้ เช่น จ.พังงา และสตูล เป็นต้น ดังนั้น เรือประมงบางส่วนของภูเก็ตได้เข้าไปขอประจำที่พังงาแล้ว เนื่องจากสะดวกต่อการขึ้นและส่งปลาในอุตสาหกรรมแปรรูป ทำให้เกิดความมั่นใจในแต่ละจังหวัดในการคัดกรองโรค ซึ่งศรชล.ภาค 3 สนับสนุนให้มีการคัดกรองเรือประมงเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ะบาดเชื้อโควิด-19 ในเรือประมงและในทะเลอันดามันทั้งหมด” พลเรือโท เชิงชาย กล่าว