หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.ชาตรี ชูวิเชียร รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต-มูลนิธิร่วมใจกู้ภัยภูเก็ตรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว
ขณะเดียวกันที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและหาเบาะแสเพิ่มเติมจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายวินิจ คุ้มครอง อดีตสามีเป็นผู้ลงมือ
จึงได้ติดตามตัวไปยังบ้านพักในพื้นที่ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ก่อนพบกับแม่และพี่สาวของนายวินิจ ซึ่งทั้งสองได้ช่วยเกลี่ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว โดยแม่และพี่สาวได้สอบถามทางโทรศัพท์จนนาย วินิจ ยอม บอกว่า หลบหนีไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 52/3 ม.5 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา และพร้อมจะมอบตัว แม่และพี่สาวจึงพาเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต พ.ต.ต.ธนศักดิ์ สว่างศรี พ.ต.ต.ตะวัน เลขามาศ สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ไปรับตัวนายวินิจ จากบ้านหลังดังกล่าว และนำตัวกลับมาถึงที่สภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ในเวลาประมาณ 22.30 น.พร้อมของกลางรถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุ
สอบถามแล้วนายวินิจ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้กระทำจริง เนื่องจากโมโหที่อดีตภรรยาพยายามขับรถชนและปัญหาที่หึงหวงกลัวอดีตภรรยานอกใจ ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบ ตัดสินใจก่อเหตุ ก่อนจะขับรถจยย.หลบหนี ไปจ.พังงา ส่วนอาวุธมีดของกลางที่ใช้แทงอดีตภรรยานั้น ได้โยนทิ้งที่คลองบางเตย อ.เมือง จ.พังงา ไปแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวฝากขัง ก่อนจะทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้
ด้านพี่สาวของนายวินิจเล่าว่า น้องชายเป็นคนไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ ขยันตั้งใจทำมาหากิน จนมาแต่งงานกับภรรยาคนดังกล่าว และมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คน ก่อนหน้าที่เกิดเหตุได้มีปัญหาครอบครัวเกิดขึ้นหลายครั้งเนื่องจากฝ่ายชายทำงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัวกระทั่งเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงขอแยกทางทำให้น้องชายเกิดความเครียด เพราะยังรักภรรยาและลูก ๆ แต่ฝ่ายหญิงยืนยันแยกทาง ซึ่งอาจเป็นเพราะมีว่ามีหนุ่ม ๆ มาติดพันฝ่ายหญิงหรือไม่ตนเองก็ไม่มั่นใจ
แต่น้องชายตนนั้นไม่อยากเลิกรา จึงยังพยายามขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จ ภรรยาได้เสื้อผ้าเก็บข้าวของออกจากบ้านไป ทำให้น้องชายเกิดความเสียใจและพยายามกินยาฆ่าตัวตายแล้ว 1 ครั้ง แต่ช่วยไว้ทัน และเริ่มเหมือนจะทำใจได้ ขณะเดียวกันน้องชายต้องรับผิดชอบภาระหนี้สินหลายรายการ เช่น ผ่อนรถจยย. รถยนต์ จนต้องขายมีการขายทรัพย์สินบางส่วนไปใช้หนี้ ต่อมาน้องชายจึงพยายามขอเงินบางส่วนจากการขายทรัพย์สิน ซึ่งอยู่ที่อดีตภรรยาจำนวน 50,000 บาทคืน แต่อดีตภรรยาขอผ่อนส่งเดือนละ 4,000 บาท ซึ่งมีการทำสัญญาไว้ ก่อนที่น้องชายจะพยายามมาทวงเงิน และเกิดเหตุสลดขึ้น
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาติดตามตัวผู้ก่อเหตุก่อนนำตัวที่ที่สภ.วิชิตได้ โดยใช้เวลารวม 4 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำนายวินิจเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยในช่วงเช้าของวันนี้ (9 มี.ค.61 ) ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาและพาตัวไปทำแผนที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง
