รวบเสี่ยพันล้านปาดังเบซาร์ หลบหนีหมายจับค้าโรฮีนจา คาด่านอรัญประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) รายงานผลการจับกุมตัว 'โกต๊อก' นักธุรกิจพันล้าน ในปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญ ตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวีปี 2558 ในฐานความผิด “ร่วมกันการค้ามนุษย์” โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ข่าวภูเก็ต

วันจันทร์ ที่ 4 พฤศจิกายน 2562, เวลา 12:00 น.

วานนี้ (3 พ.ย.62) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำโดย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัว นายสุพัฒน์ หรือโกต๊อก สันติปิยกุล อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ลงวันที่ 11 ส.ค.2558 ในฐานความผิด “สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในทางร่างกายและเรียกค่าไถ่” โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ที่ บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา

คดีดังกล่าวนี้เกิดขึ้นและเชื่อมโยงในประเทศบังคลาเทศ เมียนมา และจังหวัดในภาคใต้ของไทย คือ ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล และแคมป์ที่พักชั่วคราวป่าเทือกเขาแก้ว หมู่ที่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และประเทศมาเลเซีย เกี่ยวพันกันในช่วงประมาณ พ.ย. ปี 2555 – 1 พ.ค. 58

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมดำเนินคดีผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้ ประกอบด้วย นายบรรณจง หรือโกจง ปองผล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์, พล.ท.มนัส คงแป้น และเจ้าหน้าที่รัฐประกอบด้วยทหาร-ตำรวจ, ผู้บริหารการเมืองท้องถิ่น, พลเรือนทั้งไทยและสัญชาติเมียนมา รวม 103 คน ในความผิดฐานสมคบกันค้ามนุษย์ที่กระทำกับบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปีและไม่เกิน 18 ปี และเกินกว่า 18 ปี อันเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551, มีส่วนร่วมอาชญากรรมข้ามชาติ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 และความผิดอื่นตามประมวลกฎมายอาญา

ซึ่งต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาคดี ทั้งอัยการโจทก์และจำเลยยื่นอุทธรณ์ จากผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พบว่ามีจำเลยที่แก้โทษทั้งสิ้น 55 คน (รับโทษหนักขึ้น) จากเดิมที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกไว้ 62 คนส่วนจำเลยที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง 40 ราย เมื่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แก้ในส่วนของจำเลยต่าง ๆ แล้ว คงเหลือจำเลยที่ยกฟ้องเพียง 26 ราย

สำหรับ พล.ท.มนัส อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก บางกอกโพสต์รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา ศาลอุทธรพิพากษาเพิ่มโทษ จากเดิมจำคุก 27 ปี เป็น 82 ปี  

ในส่วนของนายสุพัฒน์ หนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญที่ถูกออกหมายจับ พบความเชื่อมโยงทางการเงินนับพันล้าน ได้ไหวตัวทันหลบหนีข้ามแดนไปมาเลเซีย และใช้เครือข่ายความสัมพันธ์ทางธุรกิจคอยให้การช่วยเหลือ/หลบซ่อนตัว และหลบหนีคดีเรื่อยมา

ต่อมาชุดสืบสวน บก.ปคม. สืบทราบว่า โกต๊อก ได้เข้ามากบดานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา จึงได้ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.3 และตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา จนพบตัวและควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดี ส่งให้กับ ชุดสืบสวน ปคม. ที่บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่