นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ได้แจ้งผลการคัดเลือกเมืองเจ้าภาพจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ “Thailand Biennale 2025” ครั้งที่ 4 อย่างเป็นทางการ มีมติเห็นชอบให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวในปี 2025 ระยะเวลา 5 เดือน ต่อจากจังหวัดเชียงราย ในนามเจ้าภาพหลังจากการได้รับการพิจารณา ทางจังหวัดได้เตรียมนโยบายและแผนยุทธศาสตร์หลักในการเตรียมการรองรับการจัดงาน โดยจะแบ่งพื้นที่เป็น 4 พื้นที่หลัก กระจายออกเป็นพื้นที่ย่อย 61 พื้นที่ ในอำเภอเมือง 22 พื้นที่ อำเภอถลาง 9 พื้นที่ อำเภอกะทู้ 5 พื้นที่ และพื้นที่บ้านศิลปิน 25 แห่ง
สำหรับงาน “ไทยแลนด์เบียนนาเล่” นั้น เกิดขึ้นจากการที่สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะองค์กรภาครัฐที่มีภารกิจในการสนับสนุนและส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยในประเทศไทย ได้ริเริ่มจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติในรูปแบบการแสดงศิลปะสองปีครั้ง โดยใช้คำศัพท์ภาษาอิตาลีว่า ‘เบียนนาเล่’ ภายใต้ชื่อ “ไทยแลนด์เบียนนาเล่”
ซึ่งสิ่งที่ทำให้ไทยแลนด์เบียนนาเล่แตกต่างจากมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติอื่น ๆ ทั่วโลก ได้แก่ การเปลี่ยนจังหวัดที่จัดแสดงนิทรรศการในทุกครั้ง โดยสามจังหวัดแรกที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดไทยแลนด์เบียนนาเล่เป็นจังหวัดนำร่องที่มีศักยภาพในการเข้าร่วมโครงการ “เมืองศิลปะ” ของกระทรวงวัฒนธรรม คือ จังหวัดกระบี่ (พ.ศ. 2561) จังหวัดนครราชสีมา (พ.ศ. 2564) และล่าสุด คือ เชียงราย (พ.ศ. 2566) โดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย มุ่งหมายให้การจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการในแวดวงศิลปะร่วมสมัยไทย เสริมสร้างแรงบันดาลใจ และความสามารถในการสร้างสรรค์ให้กับศิลปินรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ไทยแลนด์เบียนนาเล่ ยังนับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับศิลปะและวัฒนธรรม
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกสมาคมศิลป์ภูเก็จ กล่าวถึงรูปแบบการจัดงาน Thailand Biennale Phuket 2025 ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์แห่งการเดินทาง (The Never Ending Journey)” ว่า การจัดงานในครั้งนี้ได้แบ่งการจัดแสดง 4 รูปแบบในทั้ง 3 อำเภอ โดยมีรายละเอียดคือ
1. การจัดนิทรรศการของศิลปินไทย จากทั้ง 4 ภาค ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ และศิลปินจากกลุ่มอันดามัน 2. การจัดแสดงนิทรรศการของศิลปินจากต่างประเทศที่สนใจจะมาเปิดพาวิลเลี่ยนในการแสดงนิทรรศการในฐานะตัวแทนของประเทศนั้นๆ โดยจะประสานงานผ่านกงสุลของแต่ละประเทศที่อยู่ในภูเก็ต 3. Art Festival Event การจัดนิทรรศการหลักและพื้นที่ในทุกรูปแบบ ทั้งศิลปะการจัดวางเฉพาะพื้นที่ ประติมากรรมถารหรือไม่ถาวร หรือจัดแสดงผลงานในพื้นที่หอศิลป์ หรือภายในอาคารต่างๆ เป็นนิทรรศการศิลปะมีชีวิตและทำให้เกิดการเข้าถึงศิลปะในรูปแบบ Local Touch ได้ชัดเจนและมีเสน่ห์มากขึ้น และ 4. Public Art Landmarks ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ โรงแรม จะเข้ามามีส่วนในฐานะผู้ลงทุน ในการสร้างผลงานศิลปะแบบถาวร ของศิลปินรุ่นใหม่ จัดวางตามมุมเมืองต่างๆ ของภูเก็ต โดยจะมีโครงการให้ศิลปินหรือเยาวชนผู้สนใจวาดแบบชิ้นงานประติมากรรมที่สะท้อนแนวคิดทางธรรมชาติและให้ทางกลุ่มเอกชนหรือภาคโรงแรมมีส่วนร่วมสนับสนุนในการสร้างประติมากรรมเพื่อวางในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต อันเป็นเครื่องหมายแสดงความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าภาพจัดงานที่จะเกิดขึ้น
ในส่วนของภาคเอกชน นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงผลประโยชน์ของภูเก็ตที่จะได้รับจากการจัดงานนี้ ในช่วงก่อนงานและระหว่างการจัดงาน 5 เดือน คาดว่าจะมีการจ้างงานกว่า 15,000 คน รวมถึงคาดการณ์นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในช่วงดังกล่าวกว่า 5 ล้านคน สามารถสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจเกิดจากค่าที่พัก ค่าเดินทาง อาหาร ช้อปปิ้ง รักษาพยาบาล สปา ฯลฯ กว่า 40,000 ล้านบาท
นางอัญชลี ุนายกสมาคมศิลป์ภูเก็จ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรอบระยะเวลาในการทำงานตั้งแต่นี้ไปจะเริ่มดำเนินงาน และจะมีการเปิดงานในเดือนสิงหาคม 2568 เป็นงาน Welcome opening และกำหนดพิธีเปิด Grand opening ประมาณเดือนธันวาคม 2568
การเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ “Thailand Biennale 2025” ครั้งที่ 4 นี้ถือเป็นภารกิจสำคัญอย่างยิ่งที่ชาวภูเก็ตต้องร่วมมือกัน โดยใช้ความเข้มแข็ง การสร้างสรรค์ การนำเอา Soft Power ที่มีพลังในความเป็นไทย และความเป็นภูเก็ต ส่งผ่านต่อด้วยงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ซึ่งถือเป็นการเชื่อมภูเก็ตเชื่อมไทยและ เชื่อมโลกได้อย่างงดงาม