ภูเก็ตเตรียมเคอร์ฟิว 24 ชม.14 วันเริ่ม 13 เม.ย.รุกค้นหาผู้ติดเชื้อคาดครบภายใน 30 เม.ย.

ภูเก็ต - วันนี้ (9 เม.ย.) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 18/2563 มี พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3, พลโท สิทธิพร มุสิกะสิน แม่ทัพน้อยที่ 4/ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุม คอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 9 เมษายน 2563, เวลา 16:57 น.

ที่ประชุมได้ ติดตามความก้าวหน้าการใช้สถานที่อาคารของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 การให้บริการผู้ป่วยโรงพยาบาลสนาม ณ หอประชุมศูนย์ราชการหลังใหม่ จังหวัดภูเก็ต (อ่านเพิ่มเติม คลิก) การให้บริการผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ณ โรงแรมสุพิชฌาย์ฯ การรายงานผลการตรวจค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 เชิงรุกในพื้นที่ แนวทางการบังคับใช้กฎหมาย การพิจารณามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ภายหลังการประชุม ว่าที่ ร้อยตรี วิกรม จากที่ ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การปิดพื้นที่เพื่อคัดกรองโรคโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ต ได้ทำการปิดพื้นที่แล้ว 6 แห่ง คือ ป่าตอง กะรน ราไวย์ กะทู้ ฉลอง และศรีสุนทร ในส่วนพื้นที่อื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ปิด ทางจังหวัดได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วทุกภาคส่วนแล้ว เห็นชอบให้ดำเนินการปิดพื้นที่ทั้งจังหวัด

"ถ้าจะให้ภูเก็ตจบให้เร็วที่สุด ต้องขอความร่วมมือกับประชาชนในการดำเนินการคล้าย ๆ เคอร์ฟิว ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 14 วัน ลองดูว่าปัญหาจะจบหรือไม่ในการปิดพื้นที่ ด้วยข้อจำกัดในการประกาศเคอร์ฟิวฉุกเฉินนั้น เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ทางจังหวัดจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้อยู่ในบ้าน ออกนอกเคหสถานให้น้อยที่สุด เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยเริ่มขอความร่วมมือตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนนี้เป็นต้นไป รวมเป็นเวลา 14 วัน ตามหลักวิชาการทางการแพทย์ที่วิเคราะห์ไว้ หาก 14 วันแล้วไม่มีอาการของโรคโควิด-19 ถือว่าอยู่ในระยะปลอดภัย” นายวิกรม กล่าว

“การที่ขอความร่วมมือนี้มีข้อยกเว้นในการไปพบแพทย์ มีหลักเกณฑ์พิจารณา ขอความร่วมมือออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ถ้ายังเคลื่อนไหวจะไม่สามาถควบคุมโรคได้ การดำเนินการนี้จะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยแพทย์สารวัตร ทีมงาน อสม.ช่วยกันออกไปตรวจวัดไข้ประชาชน ด้วยเครื่องเทอร์โมอินฟาเรด ตรวจวัดอุณหภูมิทุกบ้านไม่มีละเว้น จากนั้นมีการเฝ้าระวังในระยะเวลา 14 วันควบคู่กับการติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเชิงรุก”

ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติม ว่า “ทางจังหวัดขอความร่วมมือ ถ้าท่านใดมีศักยภาพจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือนได้เอง ควรจัดเตรียมไว้ก่อนวันที่ 13 เมษายนนี้ ส่วนท่านใดไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ขอให้แจ้งทางท้องถิ่นจะจัดถุงยังชีพมอบให้ทุกครัวเรือน”

“ถ้าทุกคนในจังหวัดร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาไปด้วยกัน เราก็จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ถ้าเป็นไปตามนี้ในวันที่ 30 เมษายน น่าจะค้นพบผู้ติดเชื้อหมดทั้งเกาะภูเก็ต ส่วนที่รักษาก็ทำการรักษากันไป จากนั้นจะสามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติได้” นายวิกรม กล่าว

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่