ที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในเมียนมารอบที่สอง ซึ่งเกิดการระบาดอย่างรุนแรงภายในรัฐยะไข่และมีแนวโน้มอาจแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ โดยอาจทำให้ชาวเมียนเกิดความตระหนกและนำไปสู่การอพยพหรือหลบหนีเข้าสู่ประเทศข้างเคียงรวมถึงประเทศไทย ทางรัฐบาลไทยจึงต้องสั่งให้ทำการปิดพรมแดนทั้ง 10 จังหวัดตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดแนวทางการป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยได้มีการจัดหน่วยเฉพาะกิจ เพื่อตรวจสอบแรงงานต่างด้าวในที่พัก(แคมป์)สถานที่ประกอบการและสถานที่ทำงานที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว, จัดหมู่เรือสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทางทะเล, จัดชุดตรวจ/สกัดตรวจตราเฝ้าระวังและสกัดกั้นผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทางด่านท่าฉัตรไชย และจัดชุดตรวจ/สกัดตรวจตราเฝ้าระวังและสกัดผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่หมู่บ้านและชุมชน
ทางด้าน นายธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ขอความร่วมมือทุกคนช่วยช่วยกันตรวจสอบดูแลแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต รายงานว่า จังหวัดภูเก็ตไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลา 126 วัน นับได้ว่าสถานการณ์การควบคุมโรคติดต่อของจังหวัดภูเก็ตในขณะนี้นั้นเป็นไปในทิศทางที่ดี
การทำงานด้านการควบคุมและป้องกันโรคในกลุ่มลูกเรือที่ขอเดินทางเข้ามาในประเทศไทย พบว่าข้อมูลลูกเรือขอลงทะเบียนเข้าประเทศไทยผ่านด่านทางน้ำล่าสุดรวม 1,829 คน (ยืนยันแล้ว 1,231 คน รอดำเนินการ 105 คน และแจ้งเข้าไม่ยืนยัน 493 คน) ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีจำนวนลูกเรือแจ้งเข้าสะสมจำนวน 552 คน คิดเป็นร้อยละ 30.18 ของจำนวนทั้งหมดที่ ลงทะเบียนเพื่อขอเข้าประเทศไทย ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบดูแลได้ดำเนินการดูแลลูกเรือตามมาตรฐานการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต