วันนี้ (17 เม.ย. 67) ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พล.ร.ต.ทินกร กาญจนเตมีย์ รอง ผอ.กอ.รมน.จ.ภูเก็ต (ท) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามผลดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและทางทะเลช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายจรัญ ขวัญแก้ว ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ตและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้ ในการประชุมได้สรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 จังหวัดภูเก็ต โดยข้อมูลสะสมอุบัติทางถนน วันที่ 16 เมษายน (วันที่ 6 ของการรณรงค์) ดำเนินการตั้งจุดตรวจหลักบูรณาการ รวม 3 อำเภอจำนวน 11 จุด ในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ เกิดอุบัติเหตุ 5 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย สาเหตุส่วนใหญ่มาจาก ขับรถเร็วเกินกำหนด และพฤติกรรมเสี่ยง คือไม่สวมหมวกนิรภัยโดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ ห้วงเวลา 06.01-09.00 น. ในส่วนของการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางทะเลพบว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะนี้ยังไม่มีการเกิดอุบัติเหตุในทะเลไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีผู้เสียชีวิต และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตยังคงให้ความสำคัญกับเรือปลอดภัยคนปลอดภัย การสวมใส่เสื้อชูชีพก่อนลงเรือและทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัยอย่างที่สุด
ทางด้าน พล.ร.ต.ทินกร ได้ฝากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกำชับและเข้มงวด เรื่องการอนุญาตให้เปิดบริการรถเช่าซึ่งจากการสังเกตุเห็นพบว่าชาวต่างชาติส่วนใหญ่มักไม่ชำนาญเรื่องรถมากนักอีกทั้งจำนวนผู้ปล่อยรถเช่ามีจำนวนมากเกินไป ซึ่งในเรื่องนี้ผู้แทนจากสำนักงานขนส่งจังหวัดได้รายงานว่าได้มีการขอความร่วมมือจากผู้ให้เช่าและทางตำรวจภูเก็ตก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางสถานทูตด้วยแล้วเช่นกัน
สำหรับข้อสั่งการการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุม 1 ปภ.อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ดังนี้
1) ให้จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกในการเดินทางอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวัง ตรวจตราผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอย่างเข้มข้นทั้งการขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมทั้งให้ตรวจสภาพความพร้อมของผู้ขับขี่ระหว่างการเดินทาง 2) ให้ขนส่งจังหวัด และหัวหน้าสถานีขนส่ง ตรวจสภาพรถและความพร้อมของผู้ขับรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท โดยตรวจระดับปริมาณแอลกอฮอล์และการใช้ยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตหรือประสาทก่อนออกปฏิบัติหน้าที่และจัดเตรียมรถโดยสารให้เพียงพอต่อการใช้บริการของประชาชน เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง ตลอดจนดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานีขนส่ง และจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะรถแท็กซี่ให้เพียงพอ เพื่อส่งต่อประชาชนผู้ใช้บริการถึงที่หมายอย่างปลอดภัย และ 3) ให้เตรียมความพร้อมการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย ยานพาหนะ และระบบสื่อสารให้พร้อมในการปฏิบัติงาน รวมทั้งประชาสัมพันธ์หมายเลขสายด่วน 1669 ให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้ผู้ประสบเหตุได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และปลอดภัย