ภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วยผู้แทนองค์กรเอกชน ได้แก่ หอการค้าจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมโรงแรมหาดป่าตอง สมาคมโรงแรมหาดกะตะกะรน สมาคมมัคคุเทศก์อันดามัน สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจนําเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมสปาจังหวัดภูเก็ต สมาคมที่พักบูติคจังหวัดภูเก็ต สมาคมผู้ประกอบการรถ 30 จังหวัดภูเก็ต สมาคมไทยบริการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงเรียนเอกชนนอกระบบจังหวัดภูเก็ต
และบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จํากัด
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า “ตามที่รัฐบาลได้มีมติอนุมัติให้จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยวในการรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วเดินทางเข้ามาได้โดยไม่กักตัวตามยุทธศาสตร์ Phuket Tourism Sandbox นั้น ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์สําคัญของประเทศในการสร้างโอกาสให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างดี แต่การระบาดในระลอกใหม่นี้ได้สร้างผลกระทบเรื่องความมั่นใจในการเดินตามแผน ซึ่งวันนี้ทีมภูเก็ตอันประกอบไปด้วยเอกชนหลายองค์กรได้ยืนยันที่จะมุ่งหน้าสู่ภารกิจที่เสนอไปอย่างรอบคอบและจริงจังต่อไป”
นางสาวเชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่า “จากที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนจังหวัดภูเก็ตได้รวมพลังกันเข้ารับวัคซีนกันอย่างเต็มพิกัด โดยได้รับการสนับสนุนจากทีมสาธารณสุขของจังหวัดภูเก็ต อันประกอบได้ด้วยบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน โดยได้สร้างแคมเปญ “ฉ้าน ฉีด แหล่ว” เพื่อตอกย้ำความสําคัญและความจําเป็นที่พี่น้องชาวภูเก็ตจะได้รับวัคซีนเป็นภูมิคุ้มกันสําคัญ ไม่เฉพาะต่อตนเอง แต่รวมถึงต่อชุมชน จังหวัด และประเทศไทย ให้เดินต่อไปได้โดยพี่น้องชาวภูเก็ตได้แสดงความประสงค์รับวัคซีนในล๊อตแรกจํานวน 94,000 คน ซึ่งในขณะนี้กําลังอยู่ระหว่างการฉีดเข็ม 2 โดยมีชาวภูเก็ตออกมารับวัคซีนเข็ม 2 ตามลําดับสูงถึง 98.9% ของผู้ได้รับเข็มที่ 1 และมั่นใจจะครบ 100% ตามกําหนดในสิ้นเดือนเมษายนนี้อย่างแน่นอน”
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความท้าทายในปัจจุบันว่า “แม้ว่ายุทธศาสตร์ Phuket Tourism Sandbox จะได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วก็ตาม แต่ปัญหาการระบาดในปัจจุบันได้ส่งผลทําให้การกระจายวัคซีนที่เดิมถูกวางแผนให้ภูเก็ตนั้น ได้ถูกกระจายไปในพื้นที่อื่น ๆ ตามความจําเป็นทางด้านการตัดวงจรการระบาด ซึ่งคนภูเก็ตเข้าใจในความจําเป็นนั้น แต่เรื่องยุทธศาสตร์ Phuket Tourism Sandbox ที่ได้ประกาศไปแล้วนั้น ได้กลายเป็นบริบทสําคัญของประเทศไทย ทําให้วันนี้ทีมภูเก็ตจึงขอให้รัฐบาลอนุมัติช่องทางพิเศษให้ภูเก็ตสามารถซื้อวัคซีนมาให้คนภูเก็ตได้ฉีดเอง เพื่อให้สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ตามแผนการเดิม”
“พวกเราชาวภูเก็ตเคยผ่านความยากลําบากนั้นมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว และหากวัคซีนที่มีอย่างจํากัดจะสามารถนําไปใช้ในพื้นที่ที่มีการระบาด เป็นการตัดวงจรการะบาดได้จริง ๆ แล้ว ทางชาวภูเก็ตยินดีที่รัฐบาลจะนําวัคซีนเหล่านั้นไปให้ในพื้นที่ที่ต้องการ สิ่งที่ชาวภูเก็ตต้องการคือให้รัฐบาลอนุมัติและอํานวยความสะดวกให้ทีมภูเก็ตในการจัดหาวัคซีนโดยใช้เงินของภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดูแลคนภูเก็ต และให้เดินต่อตามยุทธศาสตร์เพื่อประเทศไทยได้ไปต่อ”
ยุทธศาสตร์ #phukettourismsandbox
เป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศภายใต้สมดุลใหม่ คือ ความสามารถในการควบคุมการระบาด และการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยการท่องเที่ยวภาตใต้แนวคิดที่จะเปิดรับให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ได้รับวัคซีนครบตามจํานวนสามารถเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้โดยไม่ต้องผ่านการกักตัว โดยพร้อมกันนั้นจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับชาวภูเก็ตด้วยการฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ของประชากรที่มีอยู่จริงและประชากรแฝง โดยทั้งสิ้นใช้วัคซีน 933,000 โดส สําหรับประชากรรวม 466,000 คน
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า “ชาวภูเก็ตต้องการแสดงพลังให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงความพยายามและความสําเร็จที่ภูเก็ตจะเป็นพื้นที่นําร่องของประเทศไทยในการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วโดยไม่กักตัว ในขณะนี้ได้มีบริษัทนําเที่ยวจากหลายประเทศสอบถามและแสดงความสนใจในการส่งลูกค้ามายังจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะตลาดหลักที่เป็นลูกค้าประจําของภูเก็ต เช่น เยอรมัน ที่มีบริษัทรายใหญ่แจ้งกําหนดการนําเที่ยวบินตรงจํานวน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเริ่มทําการบินในวันที่ 10 ตุลาคม รวมถึงกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวียนที่ขอความชัดเจนเรื่องพิธีการด้านเอกสาร และเงื่อนไขการเดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต ที่สําคัญคือเราประกาศต่อโลกแล้ว และเราต้องทําตามที่ประกาศให้ได้”
นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ ว่าที่ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า “แนวคิดในการจัดหาวัคซีนให้กับคนภูเก็ตเอง เป็นแนวคิดแรกที่ทางทีมภูเก็ตได้ประกาศไว้เมื่อปลายเดือนมกราคม และต่อมาได้พัฒนามาเป็นแนวคิด Phuket Tourism Sandbox ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 กรกฎาคม2564 โดยไม่ต้องกักตัว เมื่อทีมภูเก็ตได้รับสัญญาณจากกระทรวงสาธารณสุขถึงความไม่ชัดเจนของการกระจายวัคซีน แต่ด้วยสัญญาประชาคมต่อพี่น้องชาวภูเก็ต และต่อประชาคมโลก เราต้องทําเรื่องนี้ให้สําเร็จให้ได้ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ตให้กลับมา”
นายภูมิกิตติ์ อธิบายรายละเอียดของแผนว่า “ด้วยความเคารพและความเข้าใจรัฐบาล สิ่งที่รัฐบาลต้องทําเพื่อควบคุมการระบาด เพื่อความปลอดภัยของชีวิตพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทยด้วยกันเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นหากวัคซีนที่ถูดจัดสรรให้กับภูเก็ต จําเป็นต้องถูกโยกไปให้พื้นที่ระบาด หรือจําเป็นต้องใช้เพื่อการตัดวงจรการระบาดในพื้นที่ใดของประเทศไทยแล้วนั้น เป็นความจําเป็นของรัฐบาลที่ควรต้องทําที่ชาวภูเก็ตขอสนับสนุน หากแต่ภูเก็ตเดินมาไกลเกินกว่าที่จะถอยหลังได้ รวมถึงวัคซีน 200,000 โดสที่ได้ฉีดให้คนภูเก็ตแล้ว จะต้องไม่สูญเสียเปล่า เราจึงจําเป็นต้องเดินหน้าต่อไปด้วยพลังของคนภูเก็ตเอง รวมใจกันอีกครั้งที่ผลักดันให้สิ่งที่เราคิดนั้นเป็นจริงด้วยพวกเราเองให้ได้”
นายธนูศักดิ์ กล่าวเสริมว่า “ทีมภูเก็ตได้เริ่มประสานงานกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นหลายแห่งที่ได้ประกาศเจตนารมณ์แต่แรกในการใช้เงินสะสมมาสนับสนุนการจัดหาวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเริ่มประสานงานบริษัทวัคซีนในต่างประเทศ และที่เป็นตัวแทนในประเทศไทยในการขอรายละเอียดและเร่งรัดกระบวนการจัดซื้อวัคซีน บนแรงกดดันของเวลาและสัญญาที่ให้กับพี่น้องประชาชน และมั่นใจว่า หากรัฐบาลไฟเขียวและเปิดช่องทางพิเศษให้ภูเก็ต เราจะสามารถเดินต่อตามแผนได้ทัน”
ทางด้าน นายนิพนธ์ เอกวานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จํากัด กล่าวว่า “เจตนารมณ์ของพวกเราชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มว่า ภารกิจนี้จะไม่มีสิ่งใดมาหยุดยั้งได้ และแม้ว่าการระบาดจะเกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง แต่ความตั้งใจของคนภูเก็ตต่อการเดินตามยุทธศาสตร์จะไม่เปลี่ยนไป”
นายภูมิกิตติ์ กล่าวสรุป “ไม่มีใครปลอดภัยจากโควิดได้ จนกว่าคนไทยทุกคนจะปลอดภัยไปด้วยกัน และวัคซีนคือคําตอบที่ชัดเจนมากที่สุดในปัจจุบัน ภูเก็ตอยากเห็นการเดินต่อไปข้างหน้าของประเทศไทย และพร้อมอยู่แถวหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยบนยุทธศาสตร์ที่วางไว้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม บนทุกแรงกดดันสู่รัฐบาล ภูเก็ตจะไม่สร้างเงื่อนไขใด แต่ขอความเข้าใจและการอนุมัติให้ภูเก็ตจัดการเรื่องวัคซีนด้วยกําลังของเราเองให้ทัน”
ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต