ภูเก็ตป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 4 ราย สะสม 201 ราย รวมเด็กชายอายุ 2 ขวบ

ภูเก็ต - สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยข้อมูลจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ณ วันที่ 23 เม.ย. 63 เวลา 24.00 น. รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดภูเก็ต ประจำวันที่ 24 เมษายน 2563 ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. – 23 เม.ย. จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 201 ราย (รายใหม่ 4 ราย) ผู้ติดเชื้อได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน 153 ราย (เพิ่มขึ้นจากเดิม 2 ราย) จำหน่าย 1 ราย กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 47 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 4 ราย

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 24 เมษายน 2563, เวลา 12:54 น.

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดภูเก็ต วันที่ 24 เม.ย. 63

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดภูเก็ต วันที่ 24 เม.ย. 63

ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 7,329 ราย (รายใหม่ 126 ราย) โดยยังคงรักษาพยาบาลรวม 124 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 77 ราย กลับบ้านแล้ว 3,170 ราย

สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 4 ราย มีรายละเอียดดังนี้

รายที่ 198 เด็กชายไทย อายุ 2 ปี เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 194, 195 และ 196 พักอาศัยที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง
ไม่มีอาการป่วย (ผู้ป่วยยืนยันได้รับการกักตัวที่รร.สุรินทร์บีช ก่อนการตรวจพบการติดเชื้อ)

รายที่ 199 หญิงไทย อายุ 41 ปี อาชีพ ขายของตามตลาดนัด เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 171 และ 183 พักอาศัยที่บางเทา เริ่มมีอาการป่วย 20 เม.ย. (ผู้ป่วยยืนยันได้รับการกักตัวที่รร.สุรินทร์บีช ก่อนการตรวจพบการติดเชื้อ)

รายที่ 200 หญิงไทย อายุ 26 ปี อาชีพ ครู เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดและทำงานที่เดียวกับของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 195 เริ่มมีอาการป่วย 12 เม.ย.

และรายที่ 201 ชายไทย อายุ 40 ปี อาชีพ ขายของตลาดนัด เป็นบุตรของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 171, 183 และพักอาศัยที่บางเทา เริ่มมีอาการป่วย 22 เม.ย.

สสจ.ระบุว่า สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น พักอาศัยในบ้านเดียวกัน ทำงานในที่เดี่ยวกันกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ในพื้นที่บางเทา 

ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่าโรคโควิด-19 สามารถติดต่อจากคนไปสู่คนได้ง่ายโดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิด จึงอยากจะเน้นย้ำ เรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ถึงแม้จะไม่มีอาการป่วยก็ควรแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น งดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปในที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อย ๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์

สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

 

 

 

 

 

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่