พร้อมทั้งบีบแตรรถ และชูป้ายเรียกร้องข้อเสนอ 3 ข้อคือ ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้พ้นจากตำแหน่ง ให้ลดงบสถาบันพระมหากษัตริย์ และลดงบกองทัพ และเรียกร้องขอให้รัฐบาลจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ที่มีคุณภาพ เป็น mRNA ให้กับประชาชน
และได้มีอีกกลุ่มเกือบ 100 คน ได้ออกมารวมตัวกันชูป้าย “SAVE ภูเก็ต” และ “ภูเก็ตต้องการความมีสันติ” เข้าไปพยายามพูดคุยกับกลุ่มวัยรุ่นภูเก็ตปลดแอก เพื่อขอให้ยุติการรวมตัวกัน แต่ไม่เป็นผล จนทำให้ทั้ง 2 กลุ่มเกิดการปะทะคารมกันเป็นช่วง ๆ จนหวิดเกิดความรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้เข้าไประงับเหตุ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 150 คนได้เข้าไประงับเหตุ และชี้แจงว่าไม่สามารถรวมกลุ่มกันชุมนุมได้ในขณะนี้ เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง พรก.ฉุกเฉิน และเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย ว่าด้วยโรคติดต่อร้ายแรง จึงขอให้ทั้ง 2 กลุ่มแยกย้าย แต่ฝั่งคาร์ม็อบภูเก็ตปลดแอกยืนยันว่าจะยังคงเคลื่อนขบวนต่อไป ขณะฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ยืนยันว่า จะไม่ยอมสลายตัวหากกลุ่มไม่ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี
และจากนั้น ว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดรับหนังสือ โดยมีตัวแทนของกลุ่มได้อ่านวัตถุประสงค์ของการเรียกร้องในครั้งนี้