ภูเก็ตกำหนดแนวทางควบคุม กักตัว ติดตามอาการ นักท่องเที่ยว 10 ประเทศเสี่ยงโควิด-19

ภูเก็ต – พ่อเมืองภูเก็ตเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมหารือและวางแนวทางในการควบคุม ป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ให้เป็นไปตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด พร้อมไปกับการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 13 มีนาคม 2563, เวลา 12:19 น.

บรรยากาศนักท่องเที่ยวบนถนนบางลา, ป่าตอง ภาพ ข่าวภูเก็ต

บรรยากาศนักท่องเที่ยวบนถนนบางลา, ป่าตอง ภาพ ข่าวภูเก็ต

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต รายงานว่า ภายหลังการประชุมที่จัดขึ้นวานนี้ (12 มี.ค.) ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัด นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้ นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า เนื่องจากมีข้อสั่งการเพิ่มเติมจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ และการแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับแนวทางในการกักตัวนักท่องเที่ยว ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและสังคม โดยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ได้กำหนดและจังหวัดดำเนินการใน 2 ประเด็น โดยแยกเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง คือประเทศที่มีการติดต่ออย่างร้ายแรง และประเทศที่มีการระบาดต่อเนื่อง

ประเด็นแรก คือ นักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีการติดต่ออย่างร้ายแรง โดยมี 4 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมเขตปกครองพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า, เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน

บุคคลที่เป็นนักท่องเที่ยวหรือคนไทยที่เดินทางจาก 4 ประเทศเหล่านี้ จะต้องให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประจำด่านควบคุมโรค ระหว่างประเทศ เป็นผู้ออกคำสั่งตามมาตรา 40 ของ พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ศ.2558 ให้ดำเนินการกักตัวบุคคลดังกล่าวไว้ ณ ที่พำนักของบุคคลนั้น เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน กรณีเป็นนักท่องเที่ยวเข้าพักที่โรงแรมให้กักตัวที่โรงแรม ส่วนคนไทยให้กักตัวที่บ้าน

ประเด็นที่ 2 คือกลุ่มที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดต่อเนื่องจำนวน 6 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน สิงคโปร์ เยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และสเปน โดยเจ้าพนักงานควบคุมโรค ติดต่อประจำด่าน ควบคุมโรคระหว่างประเทศ จะดำเนินการแจ้งไปยัง เจ้าพนักงานควบคุมโรค ติดต่อภายในพื้นที่ (หมายถึง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล หรือผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอในพื้นที่) ให้ดำเนินการควบคุมตัวไว้เพื่อสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน ทั้งในโรงแรมและที่บ้าน โดยจะมีเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ไปตรวจเยี่ยม เพื่อดูอาการและวัดไข้อุณหภูมิทุกวัน และจะมีการเก็บบันทึกข้อมูลตำแหน่งที่อยู่

นายพิเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางจังหวัดได้มีการเก็บข้อมูลที่อยู่ของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 กลุ่มเรียบร้อยแล้ว เพื่อจะได้ไปติดตามตรวจดูอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีประมาณ 400 ราย กระจายตัวพักอยู่ตามโรงแรมและที่พักอื่น ๆ

ทางด้าน นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ได้กล่าวถึงมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวทั้ง 400 รายที่เข้ามาว่า จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดแนวทาง พร้อมทั้งประสานหารือกับภาคประชาชน ธุรกิจโรงแรมทั้ง 6 สมาคมในจังหวัด เพื่อเข้ามาร่วมกันจัดเก็บข้อมูล เฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อการมีส่วนร่วมให้การมาตรการควบคุมเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

“สำหรับในกลุ่มที่ 2 คือกลุ่ม 6 ประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องจะไม่มีการกักตัว แต่จะทำความร่วมมือ ระหว่างสถานประกอบการและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อดำเนินการตรวจวัดไข้ทุกวัน พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เหมาะสม เป็นสถานที่เปิดมีอากาศถ่ายเท เช่น ชายหาด และแนะนำหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่แออัด ที่จะเกิดความเสี่ยง เช่น ผับ บาร์ โดยจะได้หารือกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป” นพ.เฉลิมพงษ์ กล่าว

รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เน้นย้ำว่านักท่องเที่ยวจำนวนทั้ง 400 คนที่เดินทางเข้ามาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ยังไม่มีใครที่มีลักษณะอาการที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค

“ขอยืนยันว่าจากการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิของนักท่องเที่ยวทั้ง 400 ราย ไม่มีอุณหภูมิไข้สูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส และไม่มีลักษณะอาการที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค คือไม่มีอาการน้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ และอาการไอ จาม จึงไม่ต้องเข้าเกณฑ์ ทั้งนี้หากเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคจะมีการกักตัวไว้ ที่โรงพยาบาล เพื่อจะดำเนินการตรวจเช็คโดยเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง ส่งตรวจสอบที่ห้องแล็บต่อไป” นายพิเชษฐ์ กล่าว

สำหรับมาตรการล่าสุดของทางรัฐบาลที่ได้มีการกำหนดให้ผู้ถูกกักตัวกลับไปกักตัวที่บ้านของตนเองได้นั้น นายพิเชษฐ์ อธิบายว่า ในส่วนของผู้ที่อาจจะถูกส่งมาจากส่วนกลางเพิ่มเติม ทางจังหวัดภูเก็ตได้ประสานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตดำเนินการรับตัว เพื่อส่งไปยังที่พำนักของบุคคลเหล่านั้น เช่น ที่บ้าน โดยจะไม่มาอยู่ในสถานที่ที่จังหวัดเตรียมไว้

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่