ชายคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นอธิบดีฯ และอ้างเป็นเพื่อน พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยไม่ยอมให้ตรวจใบขับขี่ตามคำขอของส.ต.ต.เอกพล จุ้ยส่องแก้ว ผบ.หมู่งานจราจร สภ.ทุ่งใหญ่ จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวนั้น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมชั้น 2 โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าทำการบันทึกภาพและทำข่าวแต่อย่างใด
โดยมี พล.ต.ต.ฐากูร ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.โชคดี และ ส.ต.ต.เอกพล เดินทางมาให้ข้อมูลเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นทั้ง พ.ต.อ.โชคดี และส.ต.ต.เอกพล ได้แอบลงทางประตูหลังหลบสื่อมวลเดินทางกลับทันที
พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ กล่าวว่า หลังประชุมในขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการเดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้ ตนมีความต้องการที่จะทราบข้อเท็จจริงด้วยตนเอง เนื่องจากประเด็นดังกล่าวเรื่องได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งในกระบวนการทำงานจะต้องอาศัยเวลาในการตรวจสอบ และขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำการตรวจสอบและรายงานผลโดยเร่งด่วน คือสอบสวนชุดปฎิบัตการในคืนเกิดเหตุทั้งหมดว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร รวมถึงสอบสวน ส.ต.ต.เอกพล ว่าได้เหตุการเกิดเพราะอะไร และสามสอบสวนผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ ว่าย้ายส.ต.ต.เอกพลเพราพเหตุใด
ผบช.ภ.8 กล่าวอีกว่า ในส่วนประเด็นที่ทางท่านนายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับมาในเรื่องของการทำงานนั้น ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็จะทำตามหน้าที่ให้เต็มที่ตามข้อกฎหมาย โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และในประเด็นเรื่องของการโยกย้ายเจ้าหน้าที่นั้นขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งโยกย้ายผู้ใดทั้งสิ้นตามที่เป็นข่าวออกไป เพราะยังอยู่ในช่วงของการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะมีความชัดเจนหลังจากมีการตรวจสอบแล้ว ส่วนประเด็นมีกระแสข่าวในโลกโชเชียลที่ว่าท่านอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ไม่ยอมให้ตรวจใบอนุญาติขับขี่ เนื่องจากไม่ได้พกมาและรถยนต์ไม่ได้ต่อทะเบียนนั้น เรื่องนี้ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนของตำรวจในหน่วยของตนเองก่อน อย่าเพิ่งไปขยายวงออกไปกว้างกว่านั้นเลย เพราะเชื่อว่าในขณะนี้ในแต่ละหน่วยก็ทำตามหน้าที่ของตนเองอยู่ ต่อข้อถามเหตุการณ์นี้จะมีผลต่อการปฎิบัติของผู้ใต้บังคับชาหรือไม่
พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ กล่าวอีกว่าจากการพูดคุยกับส.ต.ต.เอกพล เห็นว่ามีขวัญกำลังใจดี เพราะผู้บังคับบัญชาไม่มีใครไปตำหนิติเตียนหรือว่ากล่าวแต่อย่างใด และยังให้กำลังใจอีกด้วย เพราะจากการดูในคลิปก็ถือว่าปฎิบัติตามหน้าที่ด้วยดี
