ปราบ แถลงข่าวร่วม ผกก.ป่าตอง ยันปลอดภัยไร้มาเฟีย เผยเดินหน้าผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ภูเก็ต – พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนในประเด็นน่าสนใจที่เกิดขึ้น โดยการเปิดโต๊ะแถลงข่าวร่วมกับ นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ประธานพิโซน่ากรุ๊ป-ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง ณ เดอะเบย์ แอนด์บีชคลับ ป่าตอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันจันทร์ ที่ 6 สิงหาคม 2561, เวลา 18:43 น.

หนึ่งในประเด็นคำถามที่สื่อมวลชนจังหวัดภูเก็ตให้ความสนใจคือกรณี “เสี่ยอ้วน” หรือ นายปัญญา ยิ่งดัง อายุ 39 ปี เจ้าของสถานบันเทิงในพื้นที่ป่าตอง ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในคดีสังหารโหด น.ส. ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 21 ปี เสียชีวิต ที่หน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้มีกระแสข่าวเชื่อว่าผู้ต้องหาได้หลบซ่อนตัวในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงมีข่าวลือว่าเสี่ยอ้วนได้ติดต่อขอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในเรื่องนี้ พ.ต.อ.อโณทัย กล่าวว่ายังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันก็ได้ทำการตรวจค้นทั้งสถานบริการและบ้านพักของนายปัญญาแล้ว

โดยเมื่อคืนวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.ป่าตอง สนธิกำลัง บก.ควบคุม พล.ร.5 ชป.รส.ร.25 และฝ่ายปกครอง บุกเข้าตรวจค้นธุรกิจสถานบันเทิงชื่อ Pum Pui เลขที่ 7 ล็อค B 3 ถนนบางลา ซึ่งเป็นของเสี่ยอ้วน ในเบื้องต้นพบเปิดสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

นอกจากนี้ ผกก.สภ.ป่าตอง ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า สถานบันเทิงดังกล่าวมีการตรวจจับมาแล้วถึง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงได้มีคำสั่งให้ปิดสถานบริการหลังจากการเข้าตรวจค้นครั้งล่าสุด

สำหรับคดีค้างเก่าของนายปัญญา พ.ต.อ.อโณทัย ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการรื้อฟื้นคดีอีกครั้ง ส่วนคดียิงคนขายไอศกรีมที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนนั้น ทางอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องซึ่งทางตำรวจคงไม่ก้าวล่วง

“สำหรับประเด็นการรื้อสำนวนค้างเก่าของนายปัญญา ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ขณะนี้กำลังมีการตรวจสอบสำนวนตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งเป็นคดีทำร้ายร่างกาย และมีคดีขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนในปี 2558 และ 2560 จะเป็นเรื่องของการเปิดสถานบริการ รวมไปถึงคดีฆ่า และความผิดในคดีล่าสุด” พ.ต.อ.อโณทัย กล่าว

“ในส่วนของคดียิงคนขายไอศกรีม ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เดือนพฤศจิกายน 2560 นั้นได้เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะมารับตำแหน่ง ในเบื้องต้นขอตอบกลาง ๆ ว่าพนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้องในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ต่อมาก็ได้ทราบว่าทางอัยการสั่งไม่ฟ้อง มีคำสั่งมาถึงโรงพักในวันที่ 12 มีนาคม 2561 โดยผมเองได้มารับตำแหน่งหลังจากนั้น ซึ่งตอนนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้เรียกสำนวนดังกล่าวขึ้นไปตรวจสอบแล้ว ส่วนคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ ทางเราคงไม่อาจไปก้าวล่วง” พ.ต.อ.อโณทัย อธิบาย

สำหรับภาพจากคลิปวีดิโอที่ปรากฏภาพทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวโดยอาวุธคล้ายฆ้อน พ.ต.อ.อโณทัย ยืนยันว่าไม่ใช่เสี่ยอ้วน แต่เป็นพนักงานภายในร้าน ซึ่งตอนนี้ก็ได้ดำเนินคดีไปแล้ว

ประเด็นการสัมภาษณ์พิเศษก็ได้มีการสอบถามในหลาย ๆ ประเด็นที่สำคัญ เช่น กรณีเสริมสร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว, ยาเสพติด และการบังคับใช้กฎหมายกับสถานบันเทิงยามค่ำคืนของเมืองป่าตอง รวมไปถึงความคืบหน้าและการผลักดันให้เทศบาลเมืองป่าตองเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการแก้กฎหมายให้คล้องจองกับบริบทของเมืองและสอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ด้วยการขยายเวลาอนุญาตให้สถานบันเทิงและสถานบริการเมืองป่าตองสามารถให้บริการได้ถึงเวลา 4.00 น. ซึ่งผู้ประกอบการเชื่อว่าหากสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ จะเป็นการแก้ปัญหาคอรัปชั่นในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน (อ่านเพิ่มเติม คลิก) และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการขับเคลื่อนเมืองป่าตองไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวมาตรฐานระดับโลก

นายปรีชาวุฒิ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.)สภ.ป่าตอง และผู้ประกอบการสถานบริการหาดป่าตอง กล่าวว่า ทาง กต.ตร.สภ.ป่าตอง อยากจะขอประชาสัมพันธ์ในโครงการที่เรากำลังดำเนินการ ซึ่งมีรูปแบบในลักษณะคล้ายกับประชารัฐ ในด้านของการส่งเสริมสังคม ความมั่นคง และการจัดระเบียบบ้านเมือง การท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อให้ภาครัฐและเอกชนทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

“และในฐานะที่ผมเป็นประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง เบื้องต้นเราก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยงานธุรการของ สภ.ป่าตอง เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาให้ สภ.ป่าตอง เป็นมาตรฐานและเป็นหน้าเป็นตาของการท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ให้การต้อนรับประชาชนให้ทันสมัยมากขึ้น โดยเน้นการบริการประชาชนเป็นหลัก ด้วยการดึงผู้ประกอบการและประชาชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองป่าตอง นอกจากนี้โครงการใหญ่ที่ได้พูดคุยกับทาง ผกก.สภ.ป่าตอง คือการปรับปรุงแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วยการยกระดับพื้นให้สูงขึ้น รวมไปถึงโครงการในการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนด้วยการระบายน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ก่อให้เกิดภาวะน้ำท่วมเหมือนเช่นที่ผ่านมา เพื่อให้โรงพักป่าตองสามารถบริการประชาชนได้เต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างแท้จริง รวมถึงการปรับแต่งภูมิทัศน์บริเวณโรงพักป่าตองให้สวยงาม” นายปรีชาวุฒิ กล่าว

นอกจากนี้ ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง ยังกล่าวย้ำว่า บางลาเป็นถนนคนเดินหรือวอล์กกิ้งสตรีทที่มีความสวยงาม และสะอาดที่สุดในประเทศไทย

“ถ้าเทียบกันในประเทศไทยแล้ว ถนนบางลาถือเป็นโมเดลของเมืองท่องเที่ยว อาจจะยังไม่ดีที่สุดในโลกแต่ตอนนี้เรากำลังจัดทำรูปแบบและผลวิจัยต่าง ๆ ให้เป็นวอล์กกิ้งสตรีทในรูปแบบที่เหมาะสม แต่เป็นโมเดลที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันที่ผมได้ไปดูงาน ไม่ว่าจะเป็นในพัทยาและเชียงใหม่ ถ้าพูดถึงระบบความปลอดภัย ความสะอาด หรือความสวยงาม ถนนบางลาผมถือว่า ดีที่สุดในประเทศ นอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือฝ่ายความมั่นคงของภูเก็ตเองก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยมีการเดินตรวจตราอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังมีการบริการนักท่องเที่ยวที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ถ้าเทียบกับหลาย ๆ เมือง”

"พวกเราต้องการให้ประกาศกฎกระทรวง หรือ พรบ.สถานบันเทิง มีความชัดเจนมากกว่านี้ ซึ่งทางผู้ประกอบการก็ได้พยายามและนำเสนอข้อมูล ทั้งจากภาคประชาชน องค์กรอื่น ๆ ด้วยการยื่นหนังสือ นอกจากนี้ยังต้องดู ทิศทางการเลือกตั้งด้วยว่า นโยบายพรรคใดจะสามารถตอบสนองในเรื่องของการกระจายอำนาจของประเทศไทยได้ดีที่สุด" เขากล่าว

สำหรับบางกรณีที่มีพนักงานสถานประกอบการทำร้ายนักท่องเที่ยว นายปรีชาวุฒิ อธิบายว่า จากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเคลียร์ปัญหาและดำเนินการในด้านคดีอย่างรวดเร็วเช่นกัน รวมถึงทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวอีกด้วย “เมืองป่าตองเป็นเมืองที่มีกล้องวงจรปิดมากที่สุด มีเครือข่ายภาคประชาชนมากที่สุด เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนมั่นใจและท่องเที่ยวเมืองป่าตองด้วยความสบายใจ” นายปรีชาวุฒิ กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่