หลังจากเรียกรถเข้าระบบแอพลิเคชั่นแล้ว ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่หัอ MG รุ่น ZS EV สีขาวทะเบียนป้ายเขียว จำจังหวัดไม่ได้ เข้ามารับ น.ส.เก๋ ที่บ้านพักดังกล่าว โดยในระหว่างทางที่กำลังไปส่ง ผู้ขับขี่รถซึ่งเป็นชาย อายุประมาณ 45 ปี ได้ใช้คำพูดไม่เหมาะสมโดยพูดสอบถามเรื่องส่วนของผู้แจ้ง รวมทั้งมีข้อความเชิญชวน เช่น ถามว่า "ไปห้องไหม""มีแฟนหรือยัง" "อยากเลี้ยงดู" ซึ่งตนรู้สึกว่า โชเฟอร์พูดจาแทะโลมตลอดเวลาไม่ให้เกียรติผู้โดยสารจึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย ในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่บนถนนเทพกระษัตรี (ขาเข้าเมือง) ในพื้นที่ตำบลเกาะแก้ว ตนจึงขอให้จอดรถเพื่อจะลงรถ แต่โชเฟอร์ยังคงขับรถดังกล่าวต่อไป และไปส่งตนที่ปลายทางในพื้นที่ ต.รัษฏา
อย่างไรก็ตาม น.ส.เก๋ ผู้แจ้งได้บอกว่า ผู้ขับขี่ไม่ได้มีการออกนอกเส้นทางแต่อย่างใด และผู้แจ้งได้ตรวจสอบชื่อผู้ขับขี่ในแอพลิเคชั่น ปรากฏชื่อนายชื่น (สงวนนามสกุล) แต่ที่มาแจ้งความ เนื่องจากรู้สึกว่าคำพูดและพฤติกรรมของโชเฟอร์ทำให้ตนเกิดความกลัวว่าจะเกิดอันตราย จึงได้ขอให้บันทึกไว้เพื่อเป็นหลักฐานก่อนดำเนินการต่อไป
ด้านนายสมชาย (นามสมมุติ) บิดาของนักศึกษาสาวรายดังกล่าว กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวมากเพราะลูกสาวได้แต่ร้องไห้เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหวั่นกระทบต่อการเรียนของลูกสาวด้วย เนื่องจากในระหว่างเดินทาง โชเฟอร์คนดังกล่าวได้พูดจาแทะโลมตลอดเวลา ทั้งยังชวนไปที่ห้องและเสนอค่าเลี้ยงดูเดือนละ 5,000 บาท
และหลังจากส่งถึงหอ ลูกสาวก็ได้ร้องเรียนไปทางแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ไม่เกิน 10 นาที โชเฟอร์คนดังกล่าวก็มาหาที่หอพักและพยายามเข้าไปขอโทษลูกสาว แต่เพื่อนของลูกสาวกันไม่ให้เข้า คนขับรถจึงได้คุกเข่าก้มกราบขอโทษลูกสาวพร้อมกับวางเงิน 300 บาทแล้วเดินจากไป เมื่อลูกโทรมาบอกตน ตนจึงพาไปแจ้งความไว้ดังกล่าว