ตรวจเข้มรถบัส เพิ่มความมั่นใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยวเทศกาลปีใหม่

ภูเก็ต - ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เตรียมพร้อมชงเข้มมาตรการด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ที่กำลังจะมาถึง ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก สแกนเข้มข้นรถโดยสารทุกสถานี พร้อมตรวจรถสภาพฟรีเพื่อการขับขี่ปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และบูรณาการตั้งจุดให้บริการ เพื่อมอบความปลอดภัยเป็นของขวัญปีใหม่ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันอาทิตย์ ที่ 23 ธันวาคม 2561, เวลา 09:00 น.

นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก โดยได้ดำเนินงานมาแล้วตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องครอบคลุมห้วง 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 โดยจะทำการตรวจเข้มทั้งรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทาง

ในส่วนของการตรวจสอบรถโดยสารประจำทางนั้น ทางขนส่งฯ ดำเนินการตรวจเข้มรถโดยสารที่สถานีขนส่งทั้ง 2 แห่ง โดยใช้แบบรายการตรวจความพร้อมที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ซึ่งจะมีทั้งการตรวจสภาพความมั่นคงแข็งแรงของรถ ยาง ระบบไฟ ติดตั้ง GPS Tracking อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่ต้องติดตั้งไว้ภายในรถ เช่น ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง เข็มขัดนิรภัย รวมถึงตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถต้องพักผ่อนเพียงพอ ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยสูงสุด โดยกำหนดระยะดำเนินงานเป็น 3 ช่วง คือช่วงเตรียมความพร้อม (6-12 ธ.ค.) ช่วงก่อนเทศกาลในระหว่างวันที่ 20-26 ธ.ค. และช่วงเทศกาล ดำเนินการระหว่าง 27 ธ.ค. ถึง 2 ม.ค.

ทั้งนี้ นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยในงานแถลงข่าวการบูรณาการความร่วมมือเปิดโครงการ “รวม ‘พลัง’ ส่งความสุขทั่วไทย ปลอดภัยทุกการเดินทาง” เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเตรียมความพร้อมของรถให้มีสภาพที่พร้อมใช้งานในช่วงเทศกาลปีใหม่ระบุว่า กรมการขนส่งทางบกได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มข้น และมุ่งเน้นทำงานเชิงบูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนนทุกภาคส่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน

นายบัญญัติ กล่าวว่า นอกจากการร่วมดำเนินการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแล้ว ยังมีการลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารไม่ประจำทางและสถานประกอบการควบคู่ไปด้วย พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการขนส่งเร่งปรับปรุงแก้ไขตัวรถในกรณีที่พบปัญหา รวมถึงสร้างความเข้าใจให้แก่พนักงานขับรถในการปฏิบัติหน้าที่อย่างปลอดภัย เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดจิตสำนึกในการให้บริการอย่างปลอดภัย และเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุของรถโดยสารสาธารณะ โดยในช่วงเทศกาล กรมการขนส่งทางบกจะยกระดับความเข้มข้นในการตรวจความพร้อมรถโดยสารทุกคัน พนักงานขับรถทุกคน และบังคับกฎหมายสูงสุดในทุกกรณีความผิด

ในส่วนของการตรวจสอบรถโดยสารไม่ประจำทางนั้น ขนส่งจังหวัดภูเก็ตยืนยันว่าได้ดำเนินการมาอย่างเข้มข้นตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยการตั้งกลุ่มไลน์ขนส่งฯและเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีในจังหวัดภูเก็ต ให้ทำการตรวจสอบและเน้นการดำเนินการกับรถควันดำ และรถบัสที่จอดเสียกีดขวางการจราจร เพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากกรณีการนำรถที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้งาน 

“ทางเราได้ดำเนินการตรวจสอบมาตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ร่วมกับทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยได้ตั้งกลุ่มไลน์เฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อเล็งเป้าหมายไปยังกลุ่มรถบริการควันดำ และรถที่จอดเสียอยู่บนถนน” นายบัญญัติ กล่าว

“เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นหรือได้รับรายงานรถโดยสารควันดำหรือจอดเสีย จะต้องดำเนินการออกใบสั่ง หรือเปรียบเทียบปรับในทันทีตามอำนาจกฎหมายเจ้าพนักงานจราจร จากนั้นทางขนส่งจะเรียกรถคันดังกล่าวเข้ามาตรวจสภาพ ซึ่งในเบื้องต้นเราจะสันนิษฐานว่ารถที่จอดเสียไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน หากตรวจสอบพบว่ารถโดยสารไม่ปลอดภัย ไม่พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่จะพ่นข้อความ “ห้ามใช้” และต้องนำรถเข้าตรวจสภาพหลังดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว”

สอดคล้องกับคำสั่งการของอธิบดีกรมการขนส่งทางบกที่ว่า กรณีพบพนักงานขับรถซึ่งมีสภาพไม่พร้อมหรือพบการกระทำความผิดดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด ทั้งปรับ พักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และ “ห้ามปฏิบัติหน้าที่” โดยผู้ประกอบการต้องเปลี่ยนรถคันใหม่และพนักงานขับรถที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่แทนทันที

สำหรับกรณีความปลอดภัยสาธารณะล่าสุดที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่ง ได้โพสต์ร้องเรียนเกี่ยวกับการโดยสารรถประจำทางสายด่านนอก-ภูเก็ต โดยให้ข้อมูลว่าตนเป็นผู้โดยสารรถคันดังกล่าว โดยนั่งบริเวณที่นั่งด้านหลังคนขับ และได้เห็นพฤติกรรมที่คนขับให้ลูกชายมานั่งตักระหว่างขับรถ อีกทั้งในบางช่วงยังให้ลูกชายเป็นผู้บังคับพวงมาลัยรถและใช้โทรศัพท์มือถือในลักษณะวิดีโอคอลอีกด้วย ทำให้ผู้ร้องเรียนเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการเดินทาง จึงตัดสินใจทิ้งตั๋วรถและยอมลงจากรถบัสคันดังกล่าวที่ด่านตรวจภูเก็ต (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ในเรื่องนี้นายบัญญัติได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวระบุว่า หลังทราบเรื่อง สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานผู้จำหน่ายตั๋วของบริษัท พัทลุงทักษิณขนส่ง จำกัด ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต แห่งที่ 2 เพื่อขอข้อมูลคนขับรถจนทราบชื่อว่านายสุรชัย เรียบร้อย อายุ 45 ปี และเรียกเข้ามาสอบถามข้อมูลและข้อเท็จจริง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (15 ธ.ค.)

ซึ่งนายสุรชัย ให้ข้อมูลว่า ตนเองเป็นผู้ขับรถบัสคันดังกล่าวจริง และมีพฤติกรรมสอนให้บุตรชายอายุ 7 ขวบขับรถจริง แต่ตนเองก็ยังคงบังคับพวงมาลัยอยู่ด้วยเป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร จากนั้นได้ส่งบุตรชายไปลงที่บขส.พังงา และได้ขับรถนำผู้โดยสาร เดินทางต่อไปยังเป้าหมายคือด่านนอก จังหวัดสงขลา

นายบัญญัติกล่าวว่า เบื้องต้นสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตลงโทษปรับนายสุรชัยเป็นเงิน 5,000 บาท ฐานขับขี่ด้วยความประมาทพร้อมสั่งพักใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 1 เดือน พร้อมทั้งนำเงินค่าปรับมอบให้เป็นรางวัลแก่ผู้ที่ได้ถ่ายภาพพร้อมวิดีโอ เพื่อแจ้งเบาะแสแก่เจ้าพนักงาน (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ด้านผู้ขับรถโดยสารสาธารณะได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าผู้เข้าร่วมฟังการแถลงข่าว พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบ โดยการขอลาออกจากอาชีพขับขี่รถโดยสารสาธารณะเพื่อไปประกอบอาชีพอื่น

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่