เพจดังกล่าวเป็นของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หมาด ๆ (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ระบุข้อความว่า “อย่าตกเป็นเหยื่อ” สินค้าเก็บเงินปลายทาง!!! ไม่ได้สั่งอย่าเซ็นรับ อย่าจ่ายเงิน กำชับคนที่บ้านด้วย ตำรวจทลายโกดัง แก๊งจีน ทำ 2 เดือน โกย 15 ล้าน #เตรียมสาวถึงบริษัทขายข้อมูลที่อยู่ลูกค้า รวมถึงเว็บไซต์ขายของปลอม แต่หลอกว่าแท้ ต้องระวังนะครับ เปิดโปงขบวนการส่งของเก็บเงินปลายทาง ไม่ได้สั่งแต่มาส่ง!!! เผลอรับง่ายเงิน เปิดมาเจอของละเมิดลิขสิทธิ์ ชำแหละทุกขั้นตอนละเอียด อุทาหรณ์ เตือนใจก่อนตกเป็นเหยื่อ
พร้อมเผยข้อมูลการบุกทลายโกดังย่านคลองหลวง เมื่อคืนที่ผ่านมา (22 พ.ย. 61) สามารถรวบผู้ต้องหาชาวจีนจำนวน 3 ราย ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ภายหลังจากที่มีชาวบ้านร้องเรียนกรณีมีพัสดุเก็บเงินปลายทาง ส่งมาให้โดยที่ตนไม่ได้สั่งสินค้า พร้อมยึดของกลางได้มากกว่า 8 พันชิ้น มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท
โดยมีระบุเพิ่มเติมอีกว่า “ทลายแล้ว!! มูลค่าสูญ 15 ล้าน โกดังของละเมิดลิขสิทธิ์ 7 คูหา แก๊งจีนยัดเยียดส่งของปลอมเก็บเงินปลายทาง ใครตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ แล้วบ้าง??” และ “แก๊งจีนยัดเยียดส่งของไม่ได้สั่ง เก็บเงินปลายทาง ใครเผลอรับจ่ายเงิน เปิดกล่องได้สินค้าปลอม นะครับ ตำรวจบุกทลายโรงงานใหญ่ คลอง 2 ปทุมธานี ตรวจยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หลายรายการ”
ในขณะเดียวกันที่จังหวัดภูเก็ตก็พบว่ามีผู้เดือดร้อนจากกรณีพัสดุเก็บเงินปลายทางจาก “กลุ่มมิจฉาชีพแนวใหม่” นี้เช่นเดียวกัน โดยผู้เดือดร้อนรายดังกล่าว เล่าว่า เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ในขณะที่ตนกำลังนั่งทำงานอยู่ที่บ้านคนเดียว ก็ได้มีบริการนำส่งกล่องใบหนึ่งมาที่บ้าน จ่าหน้าผู้รับเป็นชื่อของพี่ชายตน พร้อมทั้งแจ้งว่ามีเก็บเงินปลายทาง ระบุยอดในราคาที่ค่อนข้างสูง (เกือบหนึ่งพันบาท)
และในขณะที่ตนกำลังจะจ่ายเงินค่าพัสดุกล่องนั้นก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ปกติแล้วพี่ชายของตนไม่เคยสั่งของแบบเก็บเงินปลายทาง เพราะจะไม่สะดวกให้คนที่บ้านต้องสำรองเงินให้ จากนั้นจึงได้โทรศัพท์หาที่ชายเพื่อสอบถามให้แน่ใจ และได้คำตอบจากปลายสายว่า “พี่ไม่ได้สั่งของชิ้นนั้น” นอกจากนั้นพี่ชายของตนยังบอกอีกว่าในรอบสัปดาห์นี้มีพัสดุลักษณะนี้มาส่งที่บ้านหลายรอบ แต่ก็ตีกลับทั้งหมด
ทั้งนี้ จากการสังเกตที่กล่องพบว่าชื่อผู้ส่งระบุเป็นชื่อบริษัทหนึ่ง คล้ายเป็นชื่อภาษาจีน ซึ่งตนก็นึกได้ว่าเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา พี่ชายเคยสั่งของจากเจ้านี้ แต่ก็จ่ายเป็นเงินสดไปก่อนแล้ว ก่อนจะตัดสินใจส่งพัสดุดังกล่าวคืนให้ผู้ส่งไป พร้อมทั้งได้โพสต์เรื่องราวของตนเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้กับเพื่อน ๆ ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่มาในคราบ “พัสดุเก็บเงินปลายทาง”
