จับตามหมายหลายกระทง หนุ่ม 24 พรากผู้เยาว์ ใช้กำลังพยายามข่มขืนเด็ก 15

ภูเก็ต – เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต จับกุมผู้ต้องหาชายอายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ปี 2560 และ 2561 หลายกระทงรวมถึงผิดฐานพรากผู้เยาว์และฉ้อโกง

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 4 พฤษภาคม 2563, เวลา 13:11 น.

ภาพ สภ.วิชิต

ภาพ สภ.วิชิต

โดยแม่ของหญิงผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต เมื่อเวลา 20.55 น. วันที่ 26 พ.ย. 2560 ว่าลูกสาวของตนถูกหลอกลวงให้ไปเที่ยวน้ำตก ก่อนที่ผู้ก่อเหตุซึ่งขณะก่อเหตุอายุประมาณ 21 ปี จะใช้มีดจี้ที่คอบังคับเยาวชนหญิงผู้เสียหาย

กรณีการแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 60 แม่ของหญิงผู้เสียหายอายุ 15 ปี ในขณะนั้น ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ ร.ต.ท.หญิง ขวัญสิรินาฎ ไทยราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต ว่านายแบงค์ ไม่ทราบนามสกุล ได้ร่วมกับ เด็กหญิงพลอย นามสมมติ อายุ 15 ปี เพื่อนของลูกสาว ได้พาลูกสาวของตนไปเที่ยวน้ำตกบริเวณอ่าวยนต์ พื้นที่ตำบลวิชิต ซึ่งได้เดินทางไปด้วยกันรวม 3 คน เมื่อถึงที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น. เพื่อนของลูกสาวได้ลงมาจากน้ำตก ส่วนลูกสาวตนเดินตามนายแบงค์

ในขณะเดียวกันนั้นนายแบงค์ได้ใช้มีดจี้คอของลูกสาวคนและข่มขู่ว่าหากนำเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจ จะทำร้ายคนในครอบครัวของผู้หญิง ซึ่งลูกสาวของตนก็ได้ขัดขืน จากนั้นได้ถามเพื่อนสาวว่าทำไมจึงหลอกลวง พลอยจึงเล่าว่า ตนเคยถูกกระทำมาแล้วโดยนายแบงค์ขู่ว่าล่าไม่ทำแผนล่อลวงนำลูกสาวตนให้นายแบงค์ข่มขืนจะนำภาพของตนไปโพสต์ลงโซเชียล นอกจากนี้แม่ของผู้เสียหายยังแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่านายแบงค์พยายามใช้อาวุธมีดทำร้ายลูกสาวของตนด้วย

เจ้าพนักงานผู้จับกุม ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. โดยการปฏิบัติการของ พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย สว.กก.5 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต นำโดย พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู สว.สส.สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่จากทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเบญจพล หรือ แบงค์ เซ่งยี่ อายุ 24 ปี ที่อยู่ ต.วิชิต อ.เมือง จว.ภูเก็ต ได้ที่บริเวณห้องเช่าเลขที่ 20/198 พันเทพคอนโดทาวน์ ต.ตลาดใหญ่ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา

ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ จ.719/2560 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2560

โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามามรถขัดขืนได้ฯ, พาบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยใช้อาวุธ”

ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ จ.14/2561 ลงวันที่ 8 มกราคม 2561

โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร, พาบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พาผู้อื่น ไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบาย หลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย โดยใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนด้วยประการอื่นใด, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

และตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ จ.68/2561 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมรายงานว่า พฤติการณ์รายละเอียดเกี่ยวกับการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการสืบสวนและติดตามจับกุมนายเบญจพล

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่านายเบญจพล พักอาศัยอยู่กับญาติที่ห้องเช่าไม่ทราบเลขที่ตึกพันเทพคอนโดทาวน์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบและเฝ้าคอยในบริเวณใกล้เคียง จนเวลาประมาณ 14.30 น.เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นมารดาของนายเบญจพลเดินออกมาจากตึกพันเทพคอนโด จึงได้ขึ้นไปตรวจสอบพบว่านายเบญจพลได้แอบอยู่บริเวณใต้เตียงภายในห้องเช่า

เจ้าหน้าที่ได้เรียกให้ออกมาและได้แสดงตัว จากนั้นจึงได้นำหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตทั้ง 3 หมายแสดงให้แก่ นายเบญจพล และผู้ถูกจับยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับทั้ง 3 หมายจริงและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่