หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.วิชิต นกแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูเก็ต
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในศาลากลางหลังใหม่ ชั้น 4 บริเวณประตูกระจกด้านขวาทางเข้าห้อง ผวจ.ภูเก็ต มีร่องรอยถูกทุบกระจกแตกละเอียด และที่พื้นหน้าห้องมีหยดเลือดเป็นทางยาว นอกจากนั้น ที่ใต้โต๊ะทำงานของเลขานุการผู้ว่าฯ มีขวานเหล็กที่ใช้สำหรับทุบกระจกตู้ดับเพลิงตกอยู่ และมีหยดเลือดติดอยู่พื้นบนเช่นกัน เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพและเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 02.45 น. อส.เวรประจำศาลากลางจังหวัดภูเก็ตได้ยินเสียงโทรศัพท์หน้าลิฟต์ชั้น 1 ดังขึ้น จึงได้เดินมาตรวจสอบและได้ยินการปิดเสียงโทรศัพท์ จากนั้นเห็นชายชาวต่างชาติ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีดำแอบอยู่ที่ชั้น 1 ใกล้ลิฟต์ ทาง อส. จึงได้เข้าจับตัว แต่ชายคนดังกล่าวได้สะบัดแขนหนีขึ้นไปตามชั้นต่างๆ ของศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ทาง อส.จึงโทรแจ้ง 191 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและค้นหาชาวต่างชาติ แต่ไม่พบตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.30 น. เจ้าหน้าที่ อส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยินเสียงกระจกดังขึ้นภายในศาลากลาง จึงช่วยกันตรวจสอบ พบที่หน้าห้องผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตมีกระจกแตกแต่ยังไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชายชาวต่างชาติได้ไปก่อเหตุจะขโมยรถที่จอดหน้าร้านสะดวกซื้อใกล้กับศาลากลาง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบชายชาวต่างชาติไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว ที่เท้ามีเลือดไหลเป็นจำนวนมากเนื่องจากกระจกบาด เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวและนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในเบื้องต้นทราบว่า ชายคนดังกล่าวเป็นชาวรัสเซีย อายุประมาณ 27 ปี เจ้าหน้าที่ได้สอบถาม ยังให้การวกวนพูดจาไม่รู้เรื่อง
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ชาวรัสเซียคนดังกล่าวได้เข้ามาทางด้านข้างอาคารศาลากลาง และก่อนมาที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้ไปที่ส่วนราชการอื่นๆ และบริเวณอื่นๆ มาก่อน คาดว่าจะมีอาการทางจิตเวชเนื่องจากพบเอกสารการรักษาโรคทางจิตเวช ขณะนี้แพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้ฉีดยาและให้นอนพักรักษาตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดพร้อมยกเลิกวีซ่านักท่องเที่ยวคนดัวกล่าวด้วย
ด้าน นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ. ภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า หลังได้รับรายงานและทราบรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยมากขึ้น ไม่เฉพาะในส่วนของศาลากลางจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น แต่รวมถึงสถานที่ราชการอื่นๆ ด้วย
