จับกุมตำรวจน้ำภูเก็ตคาด่าน ขนใบกระท่อมสดเกือบ 400 กก.จากชุมพร

ภูเก็ต – วันนี้ (5 ก.ย.) เวลาประมาณ 05.30 น. พนักงานฝ่ายปกครอง ชุดปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต สภ.ท่าฉัตรไชย เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน(อส.) ได้ร่วมจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหาชายชาวไทย พร้อมด้วยของกลาง ใบพืชกระท่อมสด น้ำหนักรวมกว่า 385 กิโลกรัม คาด่านตรวจภูเก็ตฝั่งขาเข้ามือง

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 5 กันยายน 2562, เวลา 17:25 น.

ชุดปฏิบัติการพิเศษเฉพาะกิจ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต รายงานผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายประกอบด้วย ผู้ต้องหาที่ 1 นายธนากร หรือ ด.ต.ธนากร คุ่ยยกสุย อายุ 40 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.8 บก.รน., นายณัฐพงศ์หรือแอน บินยะเต๊ะ อายุ 29 ปี, นายเอกสิทธิ์ หรือปัก ศรีจรุง อายุ 40 ปี และนายราเชน โต๊ะล๊ะ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ 2-4 ตามลำดับ

พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อมสด) น้ำหนักรวม 385 กิโลกรัม บรรจุด้วยถุงพลาสติกใสวางไว้ในห้องโดยสารรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กข 3008 ภูเก็ต (ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1 นั่งโดยสารมา และมีนายณัฐพงศ์เป็นคนขับขณะตรวจค้นจับกุม), กระสุนปืนขนาด 11 มม. 2 นัด, รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ศจ 365 กรุงเทพมหานคร, โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ได้ที่ด่านตรวจภูเก็ต หมู่ 5 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อมสด) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และแจ้งเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุมครั้งนี้ ก่อนการจับกุมผู้ต้องหาคดีนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบมาว่าจะมีการขนยาเสพติดเข้าไปยังพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต โดยใช้เส้นทาง ถ.เทพกระษัตรี ในการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้จะมีรถนำ เพื่อสำรวจเส้นทางและด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย จึงได้วางแผนร่วมกันเพื่อสกัดจับ กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.ของวันนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ชุดหนึ่งคอยสังเกตรถนำที่มาจอดพักที่ด่านตรวจภูเก็ต พบรถต้องสงสัยรถยนต์โตโยต้าคัมรี่สีน้ำเงินของกลาง จอดอยู่ที่จอดรถบริเวณด่านตรวจ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจคัน พบนายเอกสิทธ์(ผู้ต้องหาที่ 3) เป็นผู้ทำหน้าที่ขับรถ และนายราเซน(ผู้ต้องหาที่ 4) เป็นผู้โดยสารมากับรถคันดังกล่าว

จากการสอบถามทั้งสองคนให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้ขับรถคันดังกล่าวมาจากชุมพร เพื่อคอยดูเส้นทางในการลำเลียงใบพืชกระท่อมเข้ามายังพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งได้บรรทุกใบพืชกระท่อมมากับรถยนต์อีกคันหนึ่ง ซึ่งขับตามมาตลอดเส้นทางเป็นรถยนต์ยี่ห้ออิซูซุ มิวเอ็กซ์ สีขาว คันของกลาง ขณะนั้นรถที่บรรทุกใบพืชกระท่อมได้จอดรอโอกาสอยู่ที่บริเวณ หน้าโรงเรียนบ้านท่านุ่น ต.โคกกลอย จ.พังงา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปสังเกตจนพบรถคันดังกล่าว

เมื่อรถเคลื่อนที่จึงได้ขับตามมาจนถึงด่านตรวจภูเก็ต ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ ซึ่งประจำอยู่ที่ด่านตรวจก็ได้เรียกให้รถคันดังกล่าวจอดเข้าประจำที่ตรวจ ก่อนจะทำการตรวจค้นและพบพืชใบประท่อมพร้อมกระสุนปืน ซุกซ่อนอยู่ภายในรถคันสีขาว ซึ่งมีนายณัฐพงศ์เป็นคนขับ และนายธนากรเป็นผู้โดยสารนั่งอยู่ภายในรถที่เบาะฝั่งซ้ายด้านหน้ารถ
สอบถามนายธนากรให้การรับว่า ใบพืชกระท่อมของกลางดังกล่าว ตนได้สั่งซื้อและไปรับด้วยตนเองมาจากพื้นที่ จ.ชุมพร โดยได้ร่วมกับผู้ต้องหาที่ 2 และ 4 ในการลำเลียงยาเสพติดทั้งหมด และมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยให้ผู้ต้องหาที่ 2 ขับรถที่บรรทุกใบพี่ชกระท่อมสด ผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ขับรถนำทาง และแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ภายหลังจากได้เงินที่จำหน่ายยาเสพติดแล้ว ก็จะแบ่งเงินกันในสัดส่วนที่เท่ากันระหว่างผู้ต้องหาทั้ง 4 คน สำหรับกระสุนปืนของกลางลำดับที่ 2 นายธนากรรับว่าเป็นของตนเอง ซึ่งได้เก็บไว้ในช่องเก็บของภายในรถก่อนหน้านี้แล้ว

ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ให้การว่าตนได้รับจ้างนายธนากรให้ทำหน้าที่ขับรถยนต์คันสีน้ำเงินนำทางรถยนต์คันที่บรรทุกใบพืชกระท่อม คอยสังเกตและรายงานความเคลื่อนไหว การตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การลำเสียงและขนใบพืชกระท่อมไปถึงที่หมายในพื้นที่เมืองภูเก็ต

โดยได้รับค่าจ้างจากนายธนากรคนละ 5,000 บาทต่อเที่ยว และได้ทำเช่นนี้มาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายนากร พบข้อความสนทนาเกี่ยวกับการซื้อขายยาเสพติดมาโดยต่อเนื่อง และมีข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่างผู้ต้องหาทั้ง 4 คนระหว่างการขนยาเสพติดจากพื้นที่ จ.ชุมพร จนถึงด่านตรวจภูเก็ต จึงแจ้งข้อหาว่า ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน และเพื่อทำการบันทึกจับกุมส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่