ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้เหตุผลในเรื่องของการทําแนวป้องกันคลื่น เพื่อปกป้องรักษาตลิ่งเอา ไว้ให้เป็นสมบัติอันสวยงามของชาติต่อไปให้ยืนนาน พร้อมกับอธิบายว่าหลังจากการ ก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามพร้อมกับจัดทําทางเดินเท้า ด้วยงบประมาณเกือบ 39 ล้านบาทจากส่วนกลางส่งตรงถึงชาวหาดสุรินทร์ ซึ่งทางฝั่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ ระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมหลายสิบคนนั้นมีทั้งกลุ่มชาวบ้านที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว
แต่พอได้มีโอกาสคุยกับชาวบ้านท่านหนึ่งที่ ได้รวมอยู่ในเหตุการณ์เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา โดยมีโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพร้อมกับ นายก อบต.เชิงทะเล ได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับ ชาวบ้านเพื่อไขข้อข้องใจกับภาพรถแบคโฮที่ กําลังขุดเปิดชายหาดอยู่ตรงหน้า กลับได้ฟังเรื่อง ราวที่แตกต่างกันออกไป
ชาวบ้านท่านนี้ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างดังกล่าว พร้อมกับให้เหตุผลพ้รอมกับแสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจว่า ธรรมชาติมีความงาม และมีการทํางานของมันอย่างไร ธรรมชาติไม่ต้องการมนุษย์ให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด มนุษย์เองต่างหากที่พยายามปลูกสร้างต่อเติมสิ่งต่างๆ ทําให้ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไป
อย่างไรก็ตาม สําหรับโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายหาดในครั้งนี้ก็ได้รับงบประมาณจากส่วนกลางมาแล้วถึงเกือบ 40 ล้าน ส่วนเหตุการณ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าทางเจ้าหน้าที่จะหาหลักฐานและอธิบายถึงความจําเป็นในการก่อสร้าง ให้ชาวบ้านยอมรับได้มากน้อยเพียงใด