และในวันที่สภาพอากาศเมฆหมอกหนาตา ฝนตกตลอดทั้งวัน ทั้งคืนแบบนี้ เชื่อเลยว่าถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่มีใครอยากออกนอกบ้านเพื่อเผชิญหน้ากับ “ฝนตกรถติด” แน่นอน ฉันเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่จะไม่มีวันขับรถออกไปเจอกับสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้อย่างสูงว่ารถจะต้องติดหนึบบนท้องถนน ประกอบกับฝนที่ตกลงมา ทำให้ถนนลื่นและยากต่อการขับขี่ทั้งยังง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อวันนั้นมัน “จำเป็น”
“ทำไมธุระสำคัญถึงต้องประดังประเดเข้ามาในวันฝนตกหนักน้ำท่วมแบบนี้” ฉันถามตัวเองในขณะที่เริ่มเคลื่อนล้อออกจากบ้าน วันนั้นขับรถวนอยู่ในเกาะแห่งร่วม 100 กิโลเมตรได้ (หรืออาจจะมากกว่า) และหนึ่งในเส้นทางที่ฉันเลือกใช้เพื่อในวันฝนตกนั้นคือเส้นทางลัดตัดใหม่ เกาะแก้ว-เชิงทะเล เป็นเส้นทางระยะไม่กี่กิโลเมตร เพื่อเลี่ยงการจราจรช่วงเกาะแก้วและอนุสาวรีย์ที่เดาได้ไม่ยากเลยว่ารถจะต้องติดหนักอย่างแน่นอน
อากาศเย็น ๆ ขับรถไปฟังเพลงไปเรื่อย มันก็มีความสุขไปอีกแบบ ขับมาเจอกับป่าสองข้างทางบนเส้นทางลัดดังกล่าว จากความสุขกลายเป็นความสงบโดยไม่รู้ตัว มันคือความสวยงามที่เราจะได้พบเจอกันบ่อย ๆ หากเราใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในเมืองโดยที่ไม่ได้ขับรถออกไปสำรวจรอบนอกเกาะแห่งนี้ ความงามของภูเก็ตยังคงอยู่ ถึงแม้ว่ามนุษย์เราจะพยายามสุดกำลังที่จะดึงเอาความงามตามธรรมชาติเหล่านั้นมาทำให้เกิดประโยชน์ส่วนตนมากเพียงใดก็ตาม
แต่พอขับรถเลยผ่านจุดนั้นไปบนถนนหลักหลักของเกาะภูเก็ต ความสงบก็เริ่มจางหายไป และภาพของบ้านเรือนสวยงามข้างทางที่เปลี่ยนไปจากต้นไม้เขียวขจีเมื่อสักครู่ ก็ทำให้เราคิดว่าถ้าหากมนุษย์เราเฝ้าแต่จะดึงเอาความงามของธรรมธรรมชาติมาครอบครอง มาเชยชมแต่เพียงส่วนตัวแล้วล่ะก็ ผู้คนรุ่นต่อไปอาจจะไม่มีสิทธิ์ได้เห็นหรือสัมผัสความความสุข ความสงบ และความงดงามของธรรมชาติ ที่ฉันเพิ่งได้พบเจอมา