"เพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริง โดยเฉพาะหม้อแปลงไฟฟ้าในจุดเกิดเหตุ ที่มีรูปแบบเป็นหม้อแปลงวงจรตาข่าย มีการเชื่อมโยงของระบบของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งตามมาตรฐานของหม้อแปลงไฟฟ้าจะมีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรอัตโนมัติ เช่นเดียวกับหม้อแปลงไฟฟ้าในจุดเกิดเหตุครั้งนี้ MEA ตรวจสอบพบภายหลังจากเพลิงสงบว่า มีการแสดงผลการทำงานของระบบป้องกันแล้ว แต่ยังต้องมีการตรวจสอบว่าการทำงานของระบบป้องกันที่เกิดขึ้นมีความสมบูรณ์หรือไม่อีกครั้ง" นายพิพัฒน์ กล่าว
รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ยืนยัน กฟน.ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบในระยะเร่งด่วน โดยเป็นการทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร
"ทั้งนี้ยังคงให้ความสำคัญในการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบในระยะเร่งด่วน ตามมาตรการฉุกเฉินที่กำหนดไว้ รวมถึงการประสานงานกับผู้ว่าฯ กทม. และร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริง และร่วมวางแนวทางป้องกันเพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชน" นายพิพัฒน์ กล่าว
พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมเร่งตรวจสอบระบบไฟฟ้าในพื้นที่เพื่อความปลอดภัย โดยได้ประสานงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร
ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์