หญิงร้องสื่อ เสียโง่แก๊งตุ๋นเงินอ้างเป็นตำรวจ สูญเงินกว่า 5 แสน

ภูเก็ต - สาวถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเป็นตำรวจ อ้างมีบัญชีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดรายใหญ่ เหยื่อติดกับโอนเงินเพื่อตรวจสอบบัญชี ตามที่ตำรวจปลายสายบอก สูญเงินไปกว่า 500,000 แสนบาท ติดต่อใครไม่ได้เลย

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 18 มกราคม 2565, เวลา 12:38 น.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 65 เวลาประมาณ 18.30 น. นางสาวพี (นามสมมติ) อายุ 49 ปี ต.กะรน อ.เมือง ภูเก็ต มาพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ขณะที่ผู้แจ้งพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลกะรน ได้มีคนร้ายโทรศัพท์มาหาผู้แจ้งอ้างว่าเป็นพนักงานธนาคารกรุงเทพ สาขาชลบุรี แจ้งว่าผู้แจ้งเป็นหนี้บัตรเครดิต จำนวนหนึ่ง และจะดำเนินคดีกับผู้แจ้ง และโอนสายให้คุยกับคนร้ายอีกคน ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอตรวจสอบเงินในบัญชี ผู้แจ้งหลงเชื่อจึงได้โอนเงินของผู้แจ้ง จากธนาคารที่ตนฝากเงินอยู่ ไปยังบัญชีของคนร้ายธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญ ชื่อบัญชี MR.AEKPANYA KONGMUN รวมเป็นเงิน 504,432.04 บาท จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ทำให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย จึงมาพบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับคนร้ายในคดีนี้และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

คืบหน้าล่าสุดเวลา 16.30 น. วานนี้ (17 ม.ค. 65) น.ส.พี ได้เปิดใจกับสื่อว่าวันเกิดเหตุช่วงเวลา 10.00 น. ได้มีหญิงสาวโทรมาแจ้งกับตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารแห่งหนึ่งที่จังหวัดชลบุรี และยังบอกกับตนอีกว่าตนเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาชลบุรี เป็นเงินจำนวน 26,000 บาท ตนตกใจและแย้งไปว่าตนไม่เคยมีบัตรเครดิต ไม่เคยทำ ไม่เคยกู้หนี้ยืมสินใคร จะเป็นหนี้ได้อย่างไร หญิงสาวตนเสียงจึงย้ำกับตนว่าถ้าไม่ใช่ก็จะดำเนินคดี ตนยิ่งตกใจหนักไปกว่าเดิมทำอะไรไม่ถูก

ในเวลาต่อมาหญิงสาวตนสายบอกกับตนว่า ถ้าอย่างนั้นต้องคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจจังหวัดชลบุรี อีก 5 นาทีเขาก็ให้ตำรวจโทรหาตน และบอกว่าตนไปพัวพันกับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับตัวดำเนินคดีแล้ว และยังบอกอีกว่ามีเงินของพ่อค้ายาเสพติดใช้บัญชีของตนฟอกเงิน ในตอนนั้นตนยิ่งตกใจหนักไปกว่าเดิม ทางต้นสายยังบอกตนอีกสารพัดเรื่อง ถามเรื่องทรัพย์สินของตนว่ามีอะไรบ้าง ตนก็บอกว่าตนเป็นคนตัวคนเดียวมีแค่รถจักรยานยนต์เพียงหนึ่งคันเท่านั้น

หญิงสาวต้นเสียงที่อ้างว่าอยู่โรงพักกำลังคุยกับผู้กำกับสถานีตำรวจชลบุรีอยู่ บอกกับตนว่าถ้าไม่มีทรัพย์สินมีเงินในบัญชี หรือไม่ทางเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบตนในช่วงนั้นกำลังตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้บอกอะไรใคร ไม่ได้ปรึกษาใครด้วย จึงบอกไปว่ามีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 5 แสนบาทหนึ่งบัญชี และ 4000 บาทอีกหนึ่งบัญชีต่างธนาคาร หลังจากนั้นคนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ให้ตนโอนเงิน เพื่อตรวจสอบบัญชีของตนภายใน 2 ชั่วโมงจะโอนคืนให้ ตนหลงเชื่อก็ได้โอนไปทั้งสิ้น 504,432.04 บาท (จากการโอน 8 ครั้ง)

หลังจากตนโอนเงินไปให้กับทางหญิงสาว ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจชลบุรีแล้ว ทางหญิงสาวคนดังกล่าวได้บอกกับตนว่าภายใน 5 นาทีจะโทรกลับมาแจ้ง ประมาณเกือบ 3 นาทีตนจึงโทรไปถามหญิงสาวต้นเสียงที่อ้างตัวเป็นตำรวจ แต่ทุกอย่างเงียบ ไม่มีคนรับสาย ต้นจึงเอะใจว่าตนน่าจะโดนกลุ่มมิจฉาชีพต้มตุ๋นหลอกอย่างแน่นอน จึงหอบเอกสารทั้งหมดที่เป็นสลิปการโอนเงินบัญชีธนาคารและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะรน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแก๊งต้มตุ๋นที่มาหลอกตนให้นำเงินมาคืนต้น เพราะตนต้องการนำเงินจำนวน 500,000 บาท ที่ตนเก็บไว้ประมาณ 7- 8 ปี ไปซื้อที่สร้างบ้านให้พ่อที่ต่างจังหวัด

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่