เกมการแข่งขันในครั้งนี้ ไมเคิล ลาโมนาโต (Michael Lamonato) นักเขียนคอลัมน์ Box of Neutrals ผู้เกาะติดข้างสนามรายงานว่า การแข่งขันสุดสัปดาห์ สนามบราซิเลียน กรังด์ ปรีซ์ คือการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบของ แมกซ์ เวอร์สแตพเพน แต่ความสำเร็จของเขากลับถูกบดบังด้วยดราม่า และอันดับในการแข่งขันที่มีการเปลี่ยนแปลงถึง 5 ครั้งในการขับ 20 รอบสุดท้าย และที่สำคัญอย่างยิ่งคือการเปลี่ยนอันดับหลังธงหมากรุก
เพราะอันดับบนโพเดียมไม่ได้เป็นไปตามที่เหล่านักแข่งคาดหวัง เมื่อเครื่องยนต์ของ วัลต์เตอรี บอตตาส์ มีควันพวยพุ่งออกมาในรอบที่ 52 นักแข่งทีมเฟอร์รารีชนเข้ากับรถอีกคันในรอบที่ 65 ทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน และแฮมิลตันที่ชนเข้ากับรถของ อัลบอน จนหลุดออกไปจากสนามในรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ส่งให้นักแข่งลูกครึ่งผู้ดีอังกฤษ-ไทย ตกลงไปอยู่ในอันดับที่ 14 ของตาราง และฮามิลตันเองถูกลงโทษพร้อมปรับลดอันดับให้ไปอยู่ที่ 7 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่ความดุเดือดที่เกิดขึ้นในสนามแห่งนี้ ก็ทำให้ ปิแอร์ แกสลี จากทีมโตโร รอสโซ และ คาร์ลอส เซนซ์ จาก แมคลาเรน ขับแซงขึ้นไปยืนบนโพเดียมได้สำเร็จ
ผลงานของแกสลีนั้นสามารถครองอันดับได้อย่างมั่นคง เฉกเช่นเดียวกับสแตพเพน กับการทำความเร็วได้ดีที่สุดในรอบคัดเลือก หนำซ้ำการชนของฮามิลตันก็ส่งให้เขาได้ขึ้นแท่นสมใจ ด้วยการขึ้นแซงแชมป์โลกในการขับรอบสุดท้าย ผ่านธงตาหมากรุก เพียงแค่ 0.062 วินาที ก่อนที่นักแข่งสัญชาติอังกฤษจะได้รับการลงโทษหลังการแข่งขัน
“วันนี้คือวันที่ดีที่สุดในชีวิต” แกสลี กล่าวด้วยความยินดี “ไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้มันจะมาถึง การที่ได้กลับมาแข่งให้ทีมโตโร รอซโซในช่วงที่สองของฤดูการแข่งขัน” นักขับสูตรหนึ่งชาวฝรั่งเศสกล่าว
“ที่ผ่านมาผมต้องแข่งขันกับตัวเอง และพยายามผลักดันให้ทีมให้ดีที่สุด ด้วยการบอกพวกเขาว่าเราต้องทำให้ดีที่สุดจากทุก ๆ โอกาสที่ผ่านเข้ามา และวันนี้มันก็มาถึงแล้ว” แกสลี กล่าว
ในขณะที่การแข่งขันของแกสลีอยู่ภายใต้การควบคุม เซนซ์กลับโชว์ผลงานสุดประทับใจ เมื่อเขาสามารถทะยานผ่าน 17 อันดับ เพื่อขึ้นไปยืนเด่นบนโพเดียมได้สำเร็จอย่างน่าประทับใจ นักขับชาวสเปนคนนี้เริ่มต้นในสนามแข่งที่อันดับ 20 เนื่องจากปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ในการแข่งรอบคัดเลือก แต่นักแข่งทีม
แมคลาเรนก็สามารถทำผลงานเร่งแซงเพื่อนร่วมสนามเก็บอันดับที่ 7 จากการขับแปดรอบแรก ซึ่งการหยุดพิทแรกเขารั้งอยู่ในอันดับที่ 9
แต่ในขณะที่คู่แข่งของเขาทำการหยุดรถเป็นครั้งที่สองเพื่อเปลี่ยนยางใหม่ เซนซ์ประคองขับด้วยยางของเขาในระยะ 42 รอบแบบไร้คู่แข่ง กระทั่งเขาสามารถขับแซงไปอยู่ในอันดับที่ 4 แต่ยังไม่ท้ายสุด เมื่อคู่แข่งของเขาอย่างฮามิลตันที่นำหน้าเขาอยู่ที่อันดับ 3 เกิดสะดุดได้รับโทษจากการแข่งขัน จึงทำให้อันดับของเซนซ์ถูกเลื่อนขึ้นไปเป็นที่ 3 ของการแข่งขันในสนามนี้
“การที่สามารถขึ้นมาถึงจุดนี้จากอันดับท้ายสุดนั้นเป็นอะไรที่พิเศษมาก” เซนซ์ กล่าวกับ สกาย สปอร์ต “ผมไม่อาจใช้คำพูดใดในการที่จะขอบคุณทีมงานและทุกคนที่มีส่วนร่วมในครั้งนี้ได้เลยเพราะการแข่งขันในปีนี้มันเป็นเหมือนความฝันที่กลายเป็นจริง และสุดท้ายแต่อาจจะยังไม่ท้ายสุดเราก็สามารถก้าวขึ้นไปสู่โพเดียมได้สำเร็จ”
ศึกรถแข่งสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลกยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะสนามแข่งขันสุดท้ายที่เหลืออยู่ของฤดูกาล ซึ่งจะเป็นสนามชิงแชมป์โลก กำลังจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม นี้ ณ สนาม ยาส มาริน่า เซอร์กิต อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
