วันนี้ (27 พ.ย.) นายปิยวัฒน์ สุคนธ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 พ.ย.) เวลาประมาณ 20.30 น. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้ ), สายตรวจปราบปรามพิเศษด้านสัตว์ป่า (เขตห้ามล่าสัตว์เขาพระแทว), กก.5 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน จับกุม นายณเรศ แสงอากาศ อายุ 33 ปี พร้อมด้วยของกลางนางอาย 1 ตัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามบัญชีลำดับที่ 151 อายุประมาณ 1 ปี ได้ที่บริเวณหน้าโรงแรมกะตะปาล์ม รีสอร์ทแอนด์สปา ในข้อหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามความผิดในมาตรา 17 และ 92 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562” ซึ่งนายณเรศรับทราบข้อกล่าวหา และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
“การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ได้ส่งหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 21 ต.ค. 62 ต่อ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ ผบก.ปทส. ว่ามีการนำสัตว์ป่ามาใช้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างไม่เหมาะสม บริเวณหน้าโรงแรมฯ ขอให้เข้ามาปราบปราม” นายปิยวัฒน์ กล่าว
“จากนั้นทางชุดจับกุมได้รับคำสั่งพร้อมทั้งออกตรวจตามรับแจ้ง พบเห็นชายคนหนึ่งสะพายกระเป๋า แต่เนื่องด้วยความไม่คุ้นหน้าเจ้าหน้าที่ นายธเนศจึงได้ยื่นนางอายออกมาต่อหน้าพนักงาน พร้อมทั้งเสนอบริการถ่ายรูปร่วมกับนางอายตัวดังกล่าว เพราะคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยว จากนั้นชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวตรวจสอบ นายณเรศได้แสดงนางอายของกลางต่อเจ้าหน้าที่และรับว่าเป็นของตน ซึ่งตนเองทราบดีว่านางอายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และตนไม่มีใบอนุญาตครอบครอง พร้อมทั้งยอมรับว่าได้นำสัตว์มาให้บริการถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวรูปละ 100 บาท ซึ่งวันที่ถูกจับกุมทำเงินได้แล้ว 500 บาท” นายปิยวัฒน์ กล่าว
“นายณเรศยอมรับว่าถูกจับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 และอ้างว่าตนยากจนและต้องนำเงินไปเลี้ยงดูครอบครัว ซึ่งเราได้แจ้งไปว่ามีอาชีพสุจริตที่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้อีกมากมาย จากนั้นจึงได้นำตัวไปส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนางอายของกลางได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ เขตห้ามล่าสัตว์เขาพระแทวตามกฎหมายแล้ว” นายปิยวัฒน์ กล่าว
เพิ่มโทษจากจำคุก 4 ปีเป็น 5 ปี ปรับ 4 หมื่น เป็น 5 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ทางเราได้เขียนรายงานการจับกุมในครั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล โดยระบุชัดเจนว่าผู้ถูกจับกระทำผิดซ้ำซากเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งกฎหมายใหม่ได้เพิ่มโทษความผิดในลักษณะนี้เป็นจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (จากเดิมจำคุก 4 ปี ปรับ 4 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ อ่านเพิ่มเติม คลิก) ซึ่งเริ่มใช้ไปเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ส่วนผู้ถูกจับจะได้รับโทษสถานใดนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล”
ทั้งนี้ นายปิยวัฒน์ ฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชน พบเห็นการกระทำผิดในลักษณะนำนางอายมาโชว์ หรือให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป สามารถโทรแจ้งโดยตรงที่เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว 089-8737749 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
