แม่เหยื่อกระสุนตำรวจกร่างเปิดใจทั้งน้ำตา ทำเหมือนลูกชายไม่ใช่คน

ภูเก็ต - วันนี้ (24 ก.พ. 64) เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตบริเวณหน้าห้อง ICU ศัลยกรรม เพื่อพบกับญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บจากลูกหลงเหตุตำรวจกร่าง

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564, เวลา 18:41 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

นางนวลจัน ทองพลับ แม่ของเหยื่อกระสุนตำรวจกร่าง เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า “วันนี้แม่ได้มาจุดธูปจุดเทียนบอกกล่าวเจ้าที่บอกกล่าวปู่ย่าตายาย พ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว ขอให้บารมีของท่านช่วยเรียกดวงวิญญาณลูกชายให้รู้สึกตัว และกลับเข้าร่างเหมือนเดิม ทราบจากคุณหมอว่าลูกชายได้รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าไปพบเจอหน้าลูกชายเลย เพราะลูกชายยังอยู่ในห้อง ICU คุณหมอยังไม่อนุญาตให้เข้าไป”

เธอกล่าวอีกว่า สำหรับร้ายขายก๋วยเตี๋ยวเป็นของแม่ลูกสะใภ้ ลูกชายบอกว่าแม่ยายไม่สบายตาอักเสบหยุดขายก๋วยเตี๋ยวสามวัน ซึ่งวันเกิดเหตุเป็นวันที่สาม โดยปกติลูกชายก็ขับรถวินจักรยานยนต์รับจ้างอยู่บริเวณในซอยบางลาใกล้กับที่เกิดเหตตุ และก่อนเกิดเหตุฝันว่าลูกชายไปหาที่บ้านในจ.ตรัง 

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า “วันนี้ยังโกรธผู้ก่อเหตุยิงลูกชายอยู่หรือไม่” นางนวลจันตอบว่า ยังรู้สึกโกรธอยู่แต่ที่มันรับไม่ได้คือ ทำไมโดนลูกหลงแล้วยังเข้าไปซ้ำลูกชายอีกทำเหมือนกับลูกชายตนไม่ใช่คน 

“ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น คนเป็นตำรวจมีจิตสำนึกบ้างหรือไม่ เขาเกิดมาเป็นคนทำไมมันแย่ ลูกชายแม่เขาเป็นเสาหลักของครอบครัวเห็นลูกชายคนโต เขาไม่น่าทำกับลูกชายแม่แบบนั้น” นางนวลจัน กล่าว

“ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวหรือลูกของตัวเอง เขาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ให้เขาคิดตรงนี้ด้วย ตอนนี้จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดให้ตำรวจช่วยให้ถึงที่สุด ลูกชายทำงานสุจริตไม่เคยมีเรื่องกับใครทำงานหาเช้ากินค่ำเพื่อเลี้ยงครอบครัว” เธอกล่าว

ด้าน น.ส.กุลธิตา ชะนะนาน ภรรยา กล่าวว่า วันนี้ตนทราบจากคุณหมอที่ดูแลสามีของตนว่า อาการสามีดีขึ้นมากแล้ว สามีรู้สึกตัวแล้วลืมตาแล้ว ตอบสนองได้บ้างแล้วแต่ยังพูดอะไรไม่ได้ แต่รับรู้ได้ด้วยการจับที่แขนสามีจะรู้สึก แต่ที่มือยังไม่รู้สึกอะไร คุณหมอบอกว่าลูกปืนถูกกระดูกสันหลังด้วย ต้องดูก่อนว่าจะขยับอะไรได้บ้าง ต้องรอดูก่อนว่าจะพิการหรือไม่ ตอนที่ตนเข้าไปสามีลืมตาอยู่แล้ว สามีอาการดีขึ้นกว่าเดิม

นายมงคล (นามสมมติ)  ซึ่งเป็นผู้บริจาคโลหิตกรุ๊ปบีให้กับผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนมาเฝ้าภรรยาซึ่งนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเช่นกัน ได้ทราบข่าวจากทางเฟซบุ๊ก ที่ภรรยาผู้ได้รับบาดเจ็บประกาศขอบริจาคเลือด และตนซึ่งมีเลือดกรุ๊ปบีตรงกันกับสามีของน้องเขาพอดีจึงรีบเข้าไปบริจาคซึ่ง เป็นการบริจาคเลือดครั้งแรกของตนเหมือนกัน “คนเราต้องช่วยกัน” 

โดยนายมงคลเล่าต่อไปอีกว่า ภรรยาของตนประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุก ขณะที่ภรรยาของตนท้องได้ 7 เดือน ตอนนี้อาการของภรรยาก็เริ่มดีขึ้นมากแล้ว ส่วนลูกในท้องเสียชีวิต ตนจึงได้นำของเล่นที่เตรียมไว้ให้ลูกชาย มามอบให้ลูกของเหยื่อกระสุนปืนตำรวจกร่างในครั้งนี้

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่