แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า “รัฐบาลมีความเป็นห่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่จังหวัดภูเก็ต รัฐบาลได้กำหนดเวลาเคอร์ฟิวการงดออกจากเคหสถาน จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างชัดเจน ใครฝ่าฝืนทำผิดต้องดำเนินการ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถหยุดตัวเลขได้”
"จำนวนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ ที่ภูเก็ตสูงเป็น 100 แล้ว (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ซึ่งในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จังหวัดภูเก็ตถือว่ามีตัวเลขสูงมาก ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงมาก จึงได้มอบให้แม่ทัพภาคที่ 4 และทุกส่วนลงมาช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ที่สำคัญชาวภูเก็ตต้องช่วยกัน ขอยืนยันตรงนี้หน้าบ้านใครหน้าบ้านท่านต้องออกมาทำความสะอาด”
“ที่ผ่านมาพบว่ายังมีการแอบจัดปาร์ตี้เล็กๆน้อยๆ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดตรงนี้ สุดท้ายทุกคนรู้ความจริงกัน และเมื่อวานนี้มีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุที่ภูเก็ต พบว่าเกี่ยวข้องโควิด -19 ทำให้ต้องกักคนอีกจำนวน 130 คน ถ้าบอกความจริงกันจะเป็นการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ได้เป็นอย่างมาก”
“กองทัพภาคที่ 4 ส่งกำลังลงมาช่วยที่ภูเก็ต ประกอบด้วย กำลังจากสารวัตรทหารกองร้อยช่วยเหลือประชาชน โดยจะดำเนินการเป็นขั้น ๆ ไป ตอนนี้เริ่มเคอร์ฟิวจะใช้กำลัง สห.โดยให้รองผู้ว่าฯฝ่ายทหาร คือ รอง ผอ.รมน.กำหนดหลัก ส่วนตนและแม่ทัพเรือ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 จะคอยสนับสนุนดูพื้นที่เริ่มที่ป่าตองและทุกพื้นที่”
“สำคัญที่สุดประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ทหารจะบังคับใช้ตามกฎหมาย พรก.ฉุกเฉินบังคับคนให้อยู่บ้านช่วยชาติ ออกมาทำความสะอาดหน้าบ้านด้วย ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนจับกุมดำเนินคดี ถ้าพบเห็นผู้ฝ่าฝืนขอให้ประชาชนช่วยแจ้ง จะมีการบังคับใข้กฎหมายโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นทำให้คนอื่นเดือดร้อน ผู้ที่ท้าทายจะต้องถูกลงโทษ” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าว
ด้านผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 มีการเตรียมกำลังทหารและกำลังสห. พร้อมให้การสนับสนุนในส่วนของกอ.รมน.ประจำจังหวัด โดยเฉพาะกองทัพเรือได้มอบหมายให้ทัพเรือภาคที่ 3 ดูแลรับผิดชอบจัดกำลังพลสนับสนุน กอ.รมน.ภูเก็ตและพังงา
“ในส่วนจังหวัดที่มีการประกาศปิดจังหวัดโดยเฉพาะการปิดท่าเรือ ขนส่งทางน้ำ การขนส่งคนโดยสารนั้น ทัพเรือภาคที่ 3 โดย ศรชล.ภาค 3 ได้บูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานในศรชล.ภาค 3 จัดเป็นชุดเข้าตรวจพื้นที่บริเวณท่าเรือชายฝั่งที่เป็นท่าเรือโดยสาร ท่าเรือขนส่ง เพื่อคัดกรองผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ให้เป็นไปตามประกาศจังหวัด ในการล็อกดาวน์ไม่ให้มีการขนส่งคนข้ามจังหวัด"
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตโดยเฉพาะป่าตองเป็นแหล่งสำคัญได้ทำการสอบสวนโรคแล้ว ส่วนใหญ่ผู้ที่มีความเสี่ยงจะอยู่ที่บางลา โดยได้มีการปิดเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรค ส่วนผู้เข้าข่ายและนำตัวไปกักกันเฝ้าระวังโรค 14 วัน
“ขณะนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมงาน ลงมาทำการตรวจเชื้อที่โรงแรมสลีพวิธมี ป่าตอง สำหรับโรงพยาบาลสนามในจังหวัดภูเก็ต เปิดรักษาผู้ป่วยอยู่ที่หอประชุมศาลากลางแห่งใหม่ (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ส่วนโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ได้พิจารณาไว้ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ยังไม่เปิดให้บริการ” นายภัคพงศ์ กล่าว
