แท็กซี่วอนขอความชัดเจน การรับนักท่องเที่ยวผ่านแอปบริการรับส่งผู้โดยสาร

ภูเก็ต - ผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะจังหวัดภูเก็ต วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ชัดเจน เกี่ยวกับการรับนักท่องเที่ยวผ่านแอปพลิเคชั่น หลังมีการจับกุมผู้ประกอบการรถตู้ที่เข้าไปรับนักท่องเที่ยวภายในสนามบินภูเก็ต ทั้งที่มีใบอนุญาตขับรถบริการรับส่งผู้โดยสารถูกต้อง ด้านขนส่งจังหวัดภูเก็ต ระบุเป็นเรื่องของกฎระเบียบภายในการท่าอากาศยาน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดระเบียบใหม่แล้ว

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 29 กันยายน 2565, เวลา 16:27 น.

แท็กซี่วอนขอความชัดเจน เรื่องการรับนักท่องเที่ยวผ่านแอปบริการรับส่งผู้โดยสาร ภาพ เอกภพ ทองทับ

แท็กซี่วอนขอความชัดเจน เรื่องการรับนักท่องเที่ยวผ่านแอปบริการรับส่งผู้โดยสาร ภาพ เอกภพ ทองทับ

จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ก.ย.65 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Suriya Thongsamak ได้โพสต์และแชร์คลิปวิดีโอจำนวน 3 คลิป ใบบันทึกประจำวันและบันทึกการจับกุมพร้อมกับภาพนักท่องเที่ยวที่เดินลากกระเป๋าภายในท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตฝั่งต่างประเทศ  แฮชแทกถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต, รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และท่าอากาศยานภูเก็ต

โดยมีข้อความทวงถามผู้ว่าฯ ให้ช่วยชี้แจงว่าการที่มีคนเดินมาดักรถไม่ให้ขับต่อไป แล้วมาเปิดประตูสั่งให้ลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวลงจากรถนั่นถือเป็นพฤติกรรมที่เรียกว่า “มาเฟีย” หรือไม่ ในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดมีนโยบายให้ท่องเที่ยวใช้บริการผ่านแอปฯได้ โดยผู้โพสต์ระบุอีกว่าตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคูเรียกค่าปรับจำนวน 300 บาท แต่ตนไม่ยิยนอมจ่ายค่าปรับดังกล่าว และถูกยึดรถยนต์เป็นของกลางในครั้งนี้ด้วย

ล่าสุดวันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับ นายสุริยะ ทองสมัคร เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวกล่าวว่าเพื่อนอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

“ผมรับลูกค้าจากป่าตองมาส่งที่สนามบิน ระหว่างทางที่ผมจะกลับเข้ามาในเมือง ก็มีแอปโบล์ทเตือนมาว่ามีลูกค้าจองรถจรกฝั่งภายในประเทศ ประตู 1 ไปกะตะ ผมก็ขับรถเข้าไปรับ ลูกค้าก็โบกมือ ผมจอดรับลูกค้า พอลูกค้าขึ้นรถนำกระเป๋าขึ้นรถเสร็จเรียบร้อย กำลังจะออกรถ ช่วงกำลังขับรถออก ก็มีเจ้าหน้าที่ 2 คนเดินมาขวางหน้ารถ แล้วก็เดินอ้อมไปเปิดประตูและบอกให้ลูกค้าลงจากรถ พร้อมกับบอกว่าไม่สามารถขับออกไปได้” นายสุริยะ กล่าว

“ตอนนั้นลูกค้าตกใจและไม่เข้าใจว่าทำไมเขาใช้บริการรถแท็กซี่ในแอปพลิเคชั่นไม่ได้ ลูกค้าบอกว่าต้องการไปตอนนี้ ไม่ต้องการรอ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไปไม่ได้ ต้องคุยกับเจ้าหน้าที่การท่าฯ ก่อน ผมก็พยายามบอกนักท่องเที่ยวว่าผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมผมรับนักท่องเที่ยวไม่ได้ สุดท้ายเจ้าหน้าที่เคลียร์ปัญหากับผมไม่ลงตัว นักท่องเที่ยวต้องรอในรถประมาณ 40 นาที ทำให้นักท่องเที่ยวไม่พอใจและไม่ยินดีที่จะจ่ายค่าบริการแท็กซี่จากสนามบินในราคาที่สูงกว่า” นายสุริยะ เล่าต่อ

 ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารเล่าต่อไปอีกว่า โดยปกติจะมีการปรับเป็นเงิน 2,000 บาท แต่ช่วงนี้ปรับ 300 ซึ่งเขาเองไม่ยินยอม

“ผมคิดว่าผมมีใบประกอบการรถตู้อย่างถูกกฎหมาย และผมไม่ได้ทำผิด ผมไม่ได้ชูป้าย ผมไม่ได้หมายเรียกแขกในสนามบิน ผมได้รับบุคกิ้งมาจากแอปฯ ลูกค้ามีตัวตนชัดเจนผมจึงเข้าไปรับ สุดท้ายคุยไม่รู้เรื่อง เขาก็ไม่ยอมเขาก็ส่งผมดำเนินคดีที่ สภ.สาคู ทีแรกตำรวจตั้งข้อหาไม่ถูก รื้อกฎหมายกันพักใหญ่ ก่อนจะตั้งข้อหาว่าแสวงหาผลประโยชน์จากการท่าอากาศยาน” นายสุริยะ อธิบาย “ผมอยากต่อสู้ให้เป็นบรรทัดฐานของผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่ เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันทุกคน และจะได้รู้ว่าสิ่งที่แท็กซี่เราทำในพื้นที่ของการท่าฯ นั้นผิดถูกอย่างไร”

ด้านผู้ประกอบรถสาธารณะรายอีกรายกล่าวว่า ตนคิดว่าในเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน ว่าสามารถรับผู้โดยสารได้หรือไม่

“ตามความคิดผม เรามีอาชีพรถรับจ้างก็ความหมายว่า สามารถรับจ้างได้ทั่วราชอาณาจักร สนามบินก็ไม่ได้แจ้งและไม่มีความชัดเจน ผมว่าไม่ได้ผิดที่เราในการรับลูกค้าผ่านแอปฯ ท้ายที่สุดผมว่าน่าจะทำให้ชัดเจนกว่านี้” 

จากนั้นทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม นายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต โดยทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตให้ข้อมูลว่า เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้การจัดการดูแลของการท่าฯ

"จากการตรวจสอบพบว่า ในเรื่องของการจดทะเบียนรถ หรือการประกอบการขนส่งนั้นถูกต้องทั้งหมด สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ ทางขนส่งก็ได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว ในเรื่องของการจัดระบบรถสาธารณะภายในท่าอากาศยาน  ทางกระทรวงได้กำหนดนโยบายมาแล้วว่า ให้ทางการท่าฯ เป็นผู้ที่มาจัดระเบียบ ร่วมกับทางขนส่ง ทางหลวง ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ในการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อกำหนดระเบียบภายในการท่าอากาศยาน และอยู่ในระหว่างการดำเนินการ" นายอัดชา กล่าว





 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่