นพ.ขจรศักดิ์ ยังไม่พบการนักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แพร่เชื้อจากนักท่องเที่ยวไปสู่ประชาชนภูเก็ต และการควบคุมป้องกันโรคในกลุ่มนักท่องเที่ยวทำได้อย่างดี ทำให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่า 70% ทำให้ผู้ติดเชื้อโควิค-19 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วมีอาการไม่หนักอยู่ในเกณฑ์สีเขียว นอกจากนี้จังหวัดภูเก็ตมีมาตรการควบคุมโรคได้ดีเพราะมีการนำตัวกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ารับการกักตัว ณ สถานที่ที่รัฐจัดให้ ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ
“อย่างไรก็ตาม อยากจะให้จังหวัดภูเก็ตดำเนินการจัดหาสำรอง LQ ของจังหวัดภูเก็ต ให้ได้ 1,500 ห้อง สิ่งสำคัญอีกหนึ่งปัจจัยคือการวางแผนดำเนินการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเครือข่าย อสม.ลงพื้นที่เชิงรุกชุมชนเพื่อค้นหากลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือกลุ่มผู้ติดเชื้อให้เข้าสู่กระบวนการรักษา” นพ.ขจรศักดิ์ กล่าว
สำหรับมาตรการการควบคุมโรคของจังหวัดภูเก็ตในขณะนี้ได้ดำเนินการ โดยเคร่งครัดมาตรการ D-M-H-T-T-A ลดกิจกรรมการรวมกลุ่ม" เร่งรัดการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อให้สามารถ ตรวจสอบจุดแพร่ระบาดและกำหนดมาตรการควบคุมโรคได้ถูกต้อง ควบคุมโรคได้รวดเร็วเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง โดยการสุ่มตรวจในสถานที่เสี่ยง เช่น แคมป์คนงาน สถานบริการ โรงงาน และไม่ให้เคลื่อนย้ายแรงงานและไม่รับแรงงานใหม่
ซึ่งในช่วงบ่ายวานนี้ (28 ก.ค.64) ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายไตรทิพย์ สกุลประดิษฐ์ นายอำเภอกะทู้ และทีมงาน สคร.11 ได้ร่วมกันลงพื้นที่สุ่มตรวจแคมป์แรงงานต่างด้าว (แคมป์สวนน้ำ) ในพื้นที่ อ.กะทู้ พร้อมทั้งกำชับผู้เกี่ยวข้องยกระดับแคมป์ในพื้นที่ให้เป็นระบบ มีข้อมูลและมาตรฐานสำหรับการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ที่ประชุมวันนี้ได้ร่วมกันพิจารณาร่างคำสั่งเรื่องมาตรการยกระดับคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3-16 ส.ค. และ ร่างคำสั่งเรื่องมาตรการควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 12 ส.ค. นี้ และมีมติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสถานที่สำหรับใช้กักกันโรค LQ สำหรับกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
- สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต