หวิดปะทะเดือดวอล์คอินไฟเซอร์ มารอตั้งแต่ตีห้าถูกส่งซิกชาวต่างชาติแซงคิว ’ไม่ฉีดยอมตายดีกว่า’

โดยชาวบ้านที่มานั่งรอคิวฉีดวัคซีนได้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่บางรายที่ทำเหมือนกับส่งซิกให้ชาวต่างชาติเข้าไปก่อน ซึ่งชาวต่างชาติกลุ่มนี้มีนายหน้าพามาเป็นกลุ่มใหญ่จำนวนประมาณ 5-6 คน ซึ่งเข้ามานั่งต่ออยู่แถวหลัง และคนที่มาเข้าคิวก่อนตั้งแต่ 05.00 น. มานั่งรออยู่ด้านหน้าอีกเป็นจำนวนมาก

ชาวบ้านที่เข้ามารับฉีดวัคซีนไฟเซอร์จึงไม่พอใจและตะโกนถามเจ้าหน้าที่ ที่จัดคิวที่ดูแลความเรียบร้อยว่า ทำไมถึงให้ชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่แซงคิวพวกตนไปได้ จากนั้นเกิดการโต้เถียงเสียงดังกันขึ้นทั้ง 2 ฝ่ายก็มีเหตุผลที่เอามาชี้แจงให้กันและกันฟัง หลังจากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งได้เข้ามาชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจเรื่องราวที่มีปากเสียงทะเลาะกันจึงได้สงบลง

นางสมใจ (นามสมมุติ) กล่าวว่า วันนี้ตนพาลูกสาวมาฉีดไฟเซอร์โดยวอล์คอินเข้ามา ซึ่งตนสังเกตได้ว่ามันผิดปกติหลายอย่าง เช่น การจัดเก้าอี้ก็ไม่มีการเว้นระยะห่าง มีแต่วัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปในอาคารเพียงเท่านั้น เจ้าหน้าที่ก็พอมีบ้างแต่ประปราย ทำหน้าที่จัดคิว แต่ดูเหมือนว่าไม่มีการจัดคิวอะไรเลย ปล่อยให้ชาวบ้านที่ต่อคิวยืนติดกันอย่างใกล้ชิด และมีกลุ่มชาวบ้านที่มายืนรอเพื่อเข้าฉีดวัคซีนได้ยืนตากแดดกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง หรืออย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง

ตนเห็นแล้วว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่วันนี้ไม่พร้อมเหมือนกับวันก่อน ๆ เหมือนที่ผ่านมาซึ่งจะเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ตนพาลูกสาวอีกคนหนึ่งไปฉีดวัคซีนที่หน่วยอื่นไม่เห็นมีปัญหาอะไร เข้าคิวเข้าแถวกันเป็นระเบียบเรียบร้อย จัดระเบียบได้ดีมาก แต่วันนี้มาฉีดวัคซีนวอล์คอินไฟเซอร์ไม่มีความปลอดภัยเลย มีแต่ความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อโควิดเสียมากกว่า

ทางด้านนายชุ้น พรหมอนงค์ กล่าวว่า มีการเรียกให้ชาวต่างชาติ 4-5 คนเดินเข้ามาแบบไม่ตามคิว ทั้งที่ตนมานั่งรอตั้งแต่เช้า พร้อมทั้งตำหนิการจัดการของเจ้าหน้าที่ในการจัดลำดับให้ชัดเจนและเป็นธรรม

“พูดอะไรก็ให้ชัดเจนผม 64 ปีแล้ว คิดดูจะกลับบ้านก็กลับไม่ได้ มาเข้าคิวตั้งแต่ 7 โมง ต้องให้มีคนมีอำนาจมาพูดให้ชัดเจน ว่ายาหมดคือหมด ตอนนี้เข้ามาเป็นกระจุกอีกแล้ว ยาพอไหม ต้องบอกให้ชัดเจน ผมเข้าใจว่าคนเยอะผมสละก็ได้ ผมยอมสละ ผมยอมตายดีกว่า”