ร.ต.อ. อดุลย์ ดีโนนโพธิ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าวกับ ข่าวภูเก็ต เช้าวันนี้ (6 มกราคม)ว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้กระทำความผิดคือ นายนพดล เนาโนนทอง อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นอดีตพระสงฆ์(บวชมานานกว่า 17 พรรษา)ได้แล้ว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ขับรถในขณะเมาสุรา, ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และชนแล้วหนี” ขณะนี้คุมขังตัวไว้ที่ สภ.ภูเวียง เพื่อเตรียมฝากขังยังศาลจังหวัดชุมแพในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) ตามกฎหมาย
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ร.ต.อ. อดุลย์ เล่าว่า เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 15.40 น. วานนี้ (5 ม.ค.) ถนนบริเวณที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งอันตราย โดยนายนพดลได้ขับรถมาจากตัวอำเภอภูเวียง มุ่งหน้าไปทางวัดป่าที่เคยจำพรรษาอยู่ พอถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งขวาได้ขับแซงรถอีกคัน(เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ระบุว่าเป็นรถชนิดใด) ข้ามเลนเข้าไปชนรถจักรยานยนต์ในบริเวณไหล่ทางที่มี นายธนากร พื้นแสน อายุ 19 ปี ชาว ต.นาหว้า อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เป็นคนขับ และมี น.ส.วิกาลดา เรสะท้าน อายุ 18 ปี ชาว ต.หว้าทอง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น นั่งซ้อนท้ายมาด้วย จนเป็นเหตุให้เยาวชนทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ในเรื่องนี้เพจเฟซบุ๊ก ข่าวคนภูเวียง รายงานว่า ทางเพจได้รับแจ้งจากครูโรงเรียนภูเวียงวิทยาคม ว่ามีเหตุรถชนที่บริเวณโค้งหน้าอบต.บ้านเรือ เบื้องต้นไม่พบรถคู่กรณี พบเพียงผู้บาดเจ็บ 2 รายนอนหมดสติบนถนน พร้อมรถจักรยานยนต์ จากนั้นทีมข่าวจึงได้โทรแจ้งโรงพยาบาลภูเวียง พร้อมทีมกู้ชีพและรถกู้ชีพ อบต.บ้านเรือ ให้ออกรับผู้บาดเจ็บและนำส่งรพ. แรกรับผู้ป่วยหมดสติอาการสาหัสทั้งคู่ ก่อนที่จะได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ของทางรพ. ว่าผู้บาดเจ็บทั้งสองรายเสียชีวิตแล้วที่รพ.ภูเวียง จากนั้นจึงได้นำร่างส่งรพ.เวียงเก่า ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนที่จะมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ส่วนคู่กรณีหลังจากเกิดได้หลบหนีไป พลเมืองดีขับรถตามไปเจอที่วัดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ในขณะเดียวกันก็ได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบพบพระสงฆ์ต้องสงสัยนอนอยู่ในกุฏิวัด ด้านหน้ากุฏิหลังดังกล่าวพบรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน ผล 1603 ขอนแก่น ด้านหน้ารถพังเสียหาย สอบถามพระลูกวัดทราบว่าเจ้าของรถคือพระนพดล
ร.ต.อ.อดุลย์ กล่าวอีกว่า ภายหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับสายสืบเร่งหาข้อมูล จนทราบว่าผู้ก่อเหตุชนแล้วหนีเป็นพระสงฆ์ มีหลักฐานเป็นชิ้นส่วนกระจังหน้ารถกระบะซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และเป็นสีเดียวกับรถผู้ต้องสงสัย จึงได้เข้าตรวจสอบที่วัดในเวลาประมาณ 16.20 น. ขณะเข้าตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของอดีตพระสงฆ์รายดังกล่าว และได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด พบว่าสูงถึง 196 mg% โดยผู้ก่อเหตุยอมรับว่าได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จริง จากนั้นจึงได้นำตัวไปทำพิธีลาสิกขาบท และควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไตรธรรม ผกก.สภ.ภูเวียง ได้เข้าให้ไปกำลังใจญาติและเพื่อน ๆ ของผู้เสียชีวิตที่รพ.ภูเวียง และพบว่าทุกคนกำลังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
