สธ.จัดหาไฟเซอร์ 20 ล้านโดส อยู่ระหว่างตรวจร่างสัญญาการจัดซื้อ คาดแล้วเสร็จจันทร์ 5 ก.ค.

วันนี้ (3 ก.ค.) สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงาน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ประมาณ 20 ล้านโดส คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ และจากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ก่อนที่จะสามารถลงนามสั่งซื้อได้ ในขณะที่อนุทินกล่าวถึงการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา บริษัทตัวแทนในไทยยืนยันนำเข้าไตรมาส 4

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 3 กรกฎาคม 2564, เวลา 16:22 น.

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงแผนจัดหาวัคซีนว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มีวัคซีน 2 ตัวหลักคือ ซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า ขณะนี้ได้ฉีดไปแล้วในประเทศไทยกว่า 10 ล้านโดส พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่เชื้อจึงได้จัดหาวัคซีนตัวอื่นเข้ามาเพิ่มเติม

“ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ หลังวัคซีนดังกล่าวได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่เนื่องจากในสัญญาการจัดซื้อมีจำนวนมากประมาณ 20 ล้านโดส จึงต้องมีการพิจารณาในส่วนของเงื่อนไขและสัญญาอย่างรอบคอบ รวมถึงต้องปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”

“ขณะนี้สำนักอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาการจัดซื้อดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ จากนั้นในวันที่ 6 กรกฎาคม กระทรวงสาธารณสุข จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา เพราะร่างสัญญานี้มีหลายเรื่องเป็นข้อผูกพันที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาล หากผ่านขั้นตอนเห็นชอบจากทุกฝ่าย สามารถลงนามสั่งซื้อได้และจะเดินหน้าเจรจาส่งมอบให้เร็วขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการที่มีจำนวนมากเช่นกัน” นพ.โสภณ กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า บริษัทตัวแทนวัคซีนโมเดอร์นาในประเทศไทย นำเข้าวัคซีนได้เร็วที่สุดในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยองค์การเภสัชกรรมเป็นสะพานเชื่อมการสั่งซื้อให้กับโรงพยาบาลเอกชน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ ยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่ครอบคลุมการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด 19 วัคซีนของประเทศไทยที่ประชาชนได้รับการฉีดเป็นวัคซีนที่มีความเหมาะสม สามารถช่วยป้องกันการเสียชีวิตและลดความรุนแรงของโรคได้ มีประสิทธิภาพประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อได้ ซึ่งวันนี้นักวิชาการได้มีการเสวนาความคืบหน้าของวัคซีนที่ใช้ในประเทศที่กระทรวงสาธารณสุข จากการที่จังหวัดภูเก็ตฉีดเข็มแรกให้กับประชาชนครอบคลุม 70 เปอร์เซ็นต์ ได้ทำการวิจัยศึกษาประสิทธิผลของการใช้วัคซีนซิโนแวคในสถานการณ์จริง ได้ผลในระดับที่ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของสากล

ในเรื่องของวัคซีนทุกคนมีความหวังดีต่อบ้านเมืองต้องการให้มีวัคซีนโมเดอร์นาเข้ามาในประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ทางบริษัทที่เป็นตัวแทนวัคซีนโมเดอร์นาในประเทศไทย ได้ชี้แจงว่า สามารถนำเข้าวัคซีนได้เร็วที่สุดในไตรมาส 4 ซึ่งวัคซีนโมเดอร์นาเป็นวัคซีนทางเลือก ที่ภาคเอกชนสามารถนำมาให้บริการกับประชาชน กระทรวงสาธารณสุขได้ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากเป็นวัคซีนภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินบริษัทจะขายให้กับหน่วยงานภาครัฐ รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรม เป็นสะพานเชื่อมผู้ผลิตวัคซีนกับผู้ซื้อ หากทุกคนทำตามข้อตกลงการสั่งซื้อก็จะเกิดขึ้นได้

นายอนุทินกล่าวต่อว่า กรณีที่บอกว่าองค์การเภสัชกรรมไม่ยอมเซ็นสัญญานั้น องค์การเภสัชกรรมต้องได้รับการยืนยันการสั่งจองจากสมาคมโรงพยาบาลว่าโรงพยาบาลเอกชนต้องการซื้อเท่าไหร่ จากนั้นแจ้งยืนยันจำนวน และชำระเงินให้กับองค์การเภสัชกรรม เพื่อเป็นสะพานในการเชื่อมต่อในการประสาน สั่งซื้อ องค์การเภสัชกรรมไม่เกี่ยวข้องในเรื่องการที่จะต้องเจรจาหรือสำรองจ่ายเงินให้ก่อน และรับความเสี่ยงต่างๆ หรือจะต้องมีการสละสิทธิ์ในการฟ้องร้องหากมีอะไรเกิดขึ้น โรงพยาบาลเอกชนจะฟ้องร้ององค์การเภสัชกรรมในฐานะผู้นำเข้าวัคซีนหรือเป็นผู้ขายไม่ได้ จึงต้องมีการตกลงเงื่อนไขต่าง ๆ

ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่