ศาลพิพากษาจำคุกตำรวจเมากร่างยิงพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวคุก 25 ปี ปรับ 7.9 ล้าน

ภูเก็ต - ศาลภูเก็ตพิพากษาจำคุก ตำรวจภูเก็ตเมากร่างยิงพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวในซอยบางลาจำคุก 25 ปี ปรับ 7.9 ล้านบาท

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 16 สิงหาคม 2565, เวลา 17:36 น.

ภาพ เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด

ภาพ เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด

วันนี้ (16 ส.ค. 65) เฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด เปิดเผยถึงคดี ตำรวจภูเก็ตเมากร่างยิงพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวจนพิการ ซึ่งคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2564 เหตุเกิดในถนนบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้  จ.ภูเก็ต 

ล่าสุดในวันนี้ที่ห้องพิจารณาคดี 3 ศาลจังหวัดภูเก็ต อ่านคำพิพากษาคดีอาญาดำที่ 262/2564 กรณี สิบตำรวจโทพรเทพ ชาญนรงค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ยิงพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว นายอรุณ ทองพลับ บริเวณถนนบางลา ป่าตอง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2564 

โจทก์ฟ้องจำเลยในความผิด 4 ข้อหา คือ 1. พยายามฆ่า 2. พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร และ 4. เสพยาเสพติด

โจทก์มีประจักษ์พยาน และมีคลิปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นพยานสำคัญในคดี

จำเลยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่จำเลยรับว่า เคยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน เนื่องจากถูกกดดันจากผู้บังคับบัญชาหลายฝ่ายจึงจำใจรับสารภาพ

เหตุที่ยิงผู้เสียหาย เพราะเข้าใจผิดว่าผู้เสียหายจะเข้ามาทำร้าย และขอให้ศาลลงโทษจำเลยในสถานเบา เนื่องจากจำเลยมีภาระหน้าที่รับผิดชอบเลี้ยงดูมารดา

ศาลได้พิจารณาแล้วพิพากษาว่า ข้ออ้างที่จำเลยอ้างว่าขอให้ศาลเมตตาลงโทษจำเลยสถานเบานั้น เพราะจำเลยมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ เป็นข้ออ้างที่เห็นแก่ตัว เพราะบุคคลอื่น ๆ ก็มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกับจำเลย โดยเฉพาะผู้เสียหายที่ถูกจำเลยยิงและเป็นผู้พิการตลอดชีวิต  ยังต้องมีภาระหน้าที่รับผิดชอบบุตรอีก 2 คนซึ่งเป็นผู้เยาว์และครอบครัว ข้อแก้ตัวในส่วนนี้จึงฟังไม่ขึ้น

ประกอบกับ จำเลยซึ่ง เป็นเจ้าพนักงานตำรวจ  มีความ ชำนาญในการใช้อาวุธปืน ย่อมเล็งเห็นถึงอันตรายจากการใช้อาวุธปืน แต่จำเลยซึ่งเป็นตำรวจกับไม่เคารพต่อกฎหมาย แต่กลับดื่มสุรา และเสพยาเสพติดจนไม่สามารถครองสติได้แล้วใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้เสียหายที่ไม่มีพฤติการณ์ จะเป็นภัยคุกคามต่อจำเลย การที่จำเลยใช้อาวุธปืนเล็งและยิงไปยังผู้เสียหายจึงถือว่ามีเจตนาฆ่า แต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเนื่องจากรักษาทัน การกระทำความผิดของจำเลย จึงเป็นความผิด ฐานพยายามฆ่า

การที่จำเลยพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้พกพา และไม่มีข้อยกเว้น  แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติหน้าที่สายสืบก็ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากวันเกิดเหตุจำเลยพกอาวุธปืน เข้ามาดื่มกินสุราเพื่อเลี้ยงฉลองในการเลื่อนตำแหน่ง จึงไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

พิพากษาในความผิดดังต่อไปนี้

1.ความผิดฐานพยายามฆ่า จำคุก 33 ปี 4 เดือน

2.ความผิดฐานพระอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรปรับ 1,000 บาท

3.ความผิดฐานยิงปืนในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควรปรับ 1,000 บาท

4.ความผิดฐานเสพยาเสพติด จำคุก 2 เดือน

ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเป็นระยะเวลา 20 ปี รวมทั้งสิ้น เป็นเงิน 7,992,500 บาท

แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีศาลจึงเมตตาลดโทษให้ 1 ใน 4 ของ โทษตามคำพิพากษา

คงจำคุก 25 ปี 4 เดือน 15 วันปรับ 1,000 บาทและให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แก่ผู้เสียหายเป็นเงิน  7,992,500 บาท

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่