และในยามที่พายุเมฆฝนพัดผ่านท้องฟ้า ก็จะส่งผลให้เกิดมีน้ำขังตามภาชนะต่าง ๆ ในบ้านเรือนของเรา ทำให้เกิดแหล่งวางไข่ของยุงลาย หรืออาจจะเป็นบ้านเรือนของเพื่อนบ้านและบ้านใกล้เรือนเคียงในบริเวณที่เราอาศัยอยู่ ซึ่งถ้าหากเราโชคดีก็จะมีผู้คนอาศัยอยู่ คอยดูแลทำความสะอาดบ้านเรือนและสวน รวมไปถึงการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
แต่ในทางกลับกันสิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อไปคือบ้านบางหลังไม่มีคนพักอาศัย เนื่องจากหลายท่านได้เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา เพื่อหลบไปพักจากพิษโควิด-19 ซึ่งจะทำให้เกิดมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกมากขึ้น รวมไปถึงโรคภัยต่าง ๆ ที่มียุงเป็นพาหะนำโรคถือเป็นสิ่งที่น่าห่วงกังวลใจในช่วงหน้าฝนนี้
จากที่มีสายฝนโปรยปรายลงมา บางท่านอาจยังไม่ได้สังเกตว่าจำนวนยุงลายเพิ่มขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเช่นในวันปกติที่เราเดินเล่นอยู่ในบริเวณหมู่บ้านที่เราคุ้นเคย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจนทำให้ตกใจจนแทบวิ่งคือ “กลุ่มยุงลายเกาะแขนทั้ง 2 ข้างและขาอีก 2 ข้าง” ขอเน้นคำว่า “กลุ่ม” เพราะประเมินจากสายตาแล้ว น่าจะมีหลายสิบตัวที่บินมาเกาะตามแขนขาของเรา
และนั่นก็คือสัญญาณอันตรายที่ส่งให้เราต้องจริงจังในการทำความสะอาด เก็บกวาดขยะและสิ่งสกปรกภายในบ้านและชุมชน กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายมาวางไข่และขยายพันธุ์ได้ จนอาจนำโรคร้ายมาสู่เราและครอบครัว เพราะยุงเป็นสาเหตุของหลายโรคอันตรายที่อาจส่งผลถึงชีวิต โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกที่มียุงลายซึ่งพบได้ภายในบ้านเป็นพาหะนำโรค และคุณหมอท่านหนึ่งก็เคยกล่าวเอาไว้ว่า "วิธีป้องกันไข้เลือดออกที่ดีที่สุดคืออย่าให้ยุงกัด" ทั้งนี้ในประเทศไทยพบว่ามีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกเป็นประจำทุกปี
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยังไม่น่าไว้วางใจซะทีเดียว ไหนจะโรคไข้เลือดออกอีก งานนี้ต้องสตรองเท่านั้น!
