รมว.ท่องเที่ยวฯลงพื้นที่ป่าตองเก็บข้อมูลก่อนนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่เกาะภูเก็ต

ภูเก็ต - เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2563 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะร่วมรับฟังปัญหาผลกระทบต่อธุรกิจจากโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างหนัก โดยมี นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นายปราบ กี่สิ้น ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน เข้าร่วมฯ ณ ลานจอดรถ บ้านกำนัน ถนนทวีวงศ์

เอกภพ ทองทับ

วันอาทิตย์ ที่ 6 กันยายน 2563, เวลา 15:57 น.

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อเก็บข้อมูลว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ถ้าจะเอานักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตคนในภูเก็ตทุกภาคส่วนยินดีต้อนรับหรือไม่ โดยทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้เข้ามาในภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 5-6 กันยายน 2563 และจะนำข้อมูลนี้สรุปในวันที่ 7 กันยายน นี้ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ

จากการลงพื้นที่ได้ทำการพบปะประชาชนได้รับข้อมูลพอสมควร โดยได้ไปที่ชุมชนย่านเมืองเก่านครภูเก็ตได้คุยกับห้างร้านคนในชุมชนว่ามีความต้องการอย่างไรของแต่ละร้านได้รับข้อมูลมาพอสมควร รวมทั้งที่ป่าตองได้รับข้อมูลสะท้อนออกมาของกลุ่มภาคธุรกิจต่าง ๆ
เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ที่ได้รับมาเป็นข้อมูลที่ดี ขอให้สบายใจและขอให้รอว่าในอนาคตอันใกล้นี้ นายกรัฐมนตรีคงเป็นผู้ให้คำตอบ ด้วยตนเองว่า สุดท้ายเราจะแก้ปัญหาให้คนภูเก็ตได้อย่างไร เป็นการแก้ปัญหาในภาพรวมไม่เฉพาะเรื่องการเอานักท่องเที่ยวเข้ามา เนื่องจากรัฐมนตรีลงมาในภูเก็ตหลายกระทรวง ไม่เฉพาะการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาการสื่อสารของการท่องเที่ยวอาจฟังไม่ครบถ้วน 100% คราวนี้ลงมาจึงสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ ของภูเก็ตให้คนภูเก็ตรับทราบว่า การที่จะเอานักท่องเที่ยวเข้ามาในภูเก็ตในอนาคตต้องทำอะไรบ้าง ตอนนี้ขอย้ำอีกครั้งให้เข้าใจคือ การให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในภูเก็ตต้องผ่านกระบวนการที่ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขกำหนดในทุกขั้นตอน คือต้องทำการตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนที่จะออกจากประเทศต้นทาง เมื่อมาถึงประเทศไทยต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง ขณะที่ตรวจแล้วไม่เจอเชื้อ เข้าไปในโรงแรมเป็นการกักตัวในระบบ ASQ 14 วัน เมื่อครบ14วันสามารถออกเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดนั้น ๆ ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นภูเก็ต

"ปัจจุบันคนภูเก็ตและคนในประเทศอาจสับสนว่าทำไมใช้คำว่าภูเก็ตโมเดล เล็งเห็นว่าภูเก็ตเป็นเกาะมีสนามบิน และรายได้ภูเก็ตเกิดจากการท่องเที่ยว 90% จึงมุ่งเน้นมาที่ภูเก็ตจึงสื่อสารคำว่าภูเก็ตโมเดล อาจเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ต่อไปคิดว่าการสื่อสารจะไม่ใช้คำว่าภูเก็ตโมเดลจะเปลี่ยนเป็นแบบอื่น ว่าจะใช้คำพูดอะไรในการนำนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย" นายพิพัฒน์ กล่าว  

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่