นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมซีฟู้ดดำเนินการมาแล้ว จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.10 สะพานหิน ครั้งที่ 2 ณ สะพานท่าเทียบเรือราไวย์ ครั้งที่ 3 ณ ลานบางลา หาดป่าตอง ได้รับความสนใจจากชาวภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยสรุปผลการดำเนินงานตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งที่ 3 มียอดการจำหน่ายทั้ง 3 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 5,891,281บาท ถือได้ว่าประสบความสำเร็จทุกครั้ง
"การจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับคืนมาดังเช่นในอดีตคงต้องใช้เวลา ภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัวและยอมรับว่า ชีวิตของทุกคนหลังโควิด-19จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทั้งรูปแบบการทำธุรกิจและการบริโภคของประชาชน”
สำหรับการจัดงานหรอย-ริม-เล ครั้งที่ 4 เป็นการบูรณาการร่วมกัน ระหว่าง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้ดำเนินการจัดมหกรรมศีฟู้ดส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยร่วมกับเทศบาลตำบลฉลอง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการผู้ค้าในท้องถิ่นให้เกิดการกระจายรายได้สร้างงานสร้างอาชีพส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ตให้เกิดการขับเคลื่อน" นายพิเชษฐ์ กล่าว
ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ภูเก็ตเมืองแห่งไข่มุกอันดามันที่นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้ธรรมชาติได้พักฟื้น
"หลังจากนี้รูปแบบการท่องเที่ยวในอนาคตจะเปลี่ยนไป เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านและหลายประเทศทั่วโลกยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องดำเนินต่อไป ดังนั้นรัฐบาลจึงผ่อนคลายมาตรการด้วยการเปิดประเทศ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้” นายวีรศักดิ์ กล่าว
“โดยกำหนดให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องแห่งแรก ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมสำหรับการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างมีระบบ มีมาตรการรองรับการป้องกันและการรักษามาตรฐานด้านการบริการ โดยเฉพาะสถานประกอบการ ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19”
“ทางจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องสามารถบริหารจัดการได้ จะสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตดำเนินกิจกรรมต่อไปได้ ภายใต้รูปแบบใหม่นิวนอร์มอล รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดที่ต้องพึ่งพากับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลัก" นายวีรศักดิ์ กล่าว
“การจัดงานมหกรรมซีฟู้ดครั้งนี้และครั้งที่ผ่านมา จึงเป็นการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศ การกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการที่ประสบกับปัญหาไม่สามารถขายสินค้าหรือประกอบธุรกิจได้ในช่วงปิดประเทศ ปิดจังหวัด และ ปิดตำบล หวังว่าการจัดงานครั้งนี้จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตให้กระเตื้องขึ้น และขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ตให้ขับเคลื่อนได้ต่อไป”