โดยมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมฯ ณ ห้องประชุมคอซิมบี้ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ที่ประชุมรับทราบ การใช้หอประชุมศูนย์ราชการฯ หรือศาลากลางจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ เพื่อเป็นโรงพยาบาลสนามรองรับหากมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด -19 เพิ่มขึ้น และรับทราบสถานที่ที่เอกชน เสนอ รองรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค หรือ PUI
นอกจากนี้ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาร่างประกาศจังหวัดภูเก็ต เรื่องปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มเติม เพื่อยกระดับมาตรฐานในการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป้าหมายสำคัญ คือ ป้องกันการรวมตัวของกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก
รายชื่อสถานที่ที่ประกาศเพิ่มเติม อาทิ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ศูนย์พระเครื่องพระบูชาแผงพระเครื่อง พระบูชาหรือสนามพระเครื่องบูชา สถานที่ที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์บิลเลียด สนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ สถานที่บริการสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น อาบน้ำตัดขน รับเลี้ยง หรือรับฝากสปาดูแลสุขภาพสัตว์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน คลินิกสถาบันร้านหรือสถานที่เสริมความงาม ร้านเสริมสวยลดความอ้วน ร้านตัดและตกแต่งทรงผม สถานที่ให้บริการบ่อตกกุ้งหรือบ่อตกปลา สระว่ายน้ำที่เปิดให้บริการประชาชนเป็นการทั่วไป ทั้งในส่วนของราชการและผู้ประกอบการเอกชน และสระน้ำในโรงแรม ทั้งประเภทที่ให้บริการรวมและสระน้ำประเภทให้บริการแยกในแต่ละห้องพัก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24- 31 มี.ค. 63
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ. ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยในส่วนของการปิดศูนย์การค้า นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต อธิบายเพิ่มเติมว่า คำสั่งปิดศูนย์การค้ายกเว้นบริเวณโซนซุปเปอร์มาเก็ต โซนอาหารที่ผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาซื้ออาหารเพื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้าน
ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 22 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. “สถานการณ์ COVID-19 จังหวัดภูเก็ต” ของจังหวัดภูเก็ตระบุจำนวนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวม 17 คน และกักตัวเพื่อรอผลที่โรงพยาบาล 26 คน (อ่านเพิ่มเติม คลิก)