ฝึกน้องหมาให้เรียนรู้การ “ปล่อย”

คนเราทุกคนล้วนแล้วแต่มีของมีค่าของตัวเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นของราคาแพงหรือของที่มีคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อยากที่จะต้องเสียมันไป ก็เพราะเหตุนี้เองพวกเราถึงต้องมีตู้เซฟเพื่อเอาไว้เก็บของ ต้องคอยล็อคประตูบ้าน และนี่ก็ไม่แตกต่างจากเหล่าบรรดาน้องหมาที่พวกเขาก็มักจะมีนิสัยหวงของ และไม่อยากเสียของรักไปเหมือนกับพวกเรา

Russell D Russell

วันอาทิตย์ ที่ 30 สิงหาคม 2563, เวลา 11:00 น.

เพราะการสอนให้สุนัขรู้จักการ “ปล่อย” หรือ “วาง” เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ภาพ: Glen Carrie / Unsplash

เพราะการสอนให้สุนัขรู้จักการ “ปล่อย” หรือ “วาง” เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ภาพ: Glen Carrie / Unsplash

พวกเขาก็ไม่เต็มใจเท่าไหร่นักที่จะให้สิ่งของมีค่าแก่ใคร ๆ ไม่ว่าของเหล่านั้นจะเป็นของเล่นชิ้นโปรด รองเท้าคู่สวยของคุณ หรือแม้แต่แค่ซากปลาแสนอร่อยตายมานานกว่า 8 วันที่เก็บได้จากชายหาดก็ตาม

น้องหมาบางตัวอาจจะมีอาการหวงข้าวหวงของเข้าขั้นดุร้ายเลยทีเดียว จนบางครั้งถึงขั้นทำร้ายคนที่จะไปเอาของของมัน ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้เราเรียกว่า “อาการหวงของ” จริง ๆ แล้วอาการนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นพฤติกรรมปกติทั่วไปที่เรารู้สึกว่าจะต้องรักษาของที่เป็นของเราไว้อย่างดีที่สุด ก็เหมือนกับว่าถ้ามีใครมาเอาอาหารของคุณไปในขณะที่คุณกำลังหลงป่าแล้วจะทำให้คุณเสียชีวิตได้เลย (เหมือนกับเวลาที่ใครมา ขโมยช็อคโกแล็ตของผมไปนั่นแหละครับ!!!)

แต่ก็นั่นแหละในบางครั้งเราก็ยังต้องเรียนรู้ที่จะเอาของมาจากน้องหมาของเราให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกของที่เป็นอันตรายต่อพวกมัน เช่นกระดูกไก่หรือห่อยาฆ่าหนู แต่ด้วยพฤติกรรมอาการหวงของที่มีอยู่นี่เอง จึงทำให้เราไม่อยากที่จะต้องไปบังคับหรือข่มขู่น้องหมาให้ทำในสิ่งที่พวกมันไม่อยากจะทำ เพราะนั่นนอกจากมันจะทำให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นไปอีกจนอาจจะถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน แล้วยังจะทำให้น้องหมายิ่งให้ความสนใจกับของที่มีค่าอยู่แล้วนั้นมากขึ้นไปอีกด้วย

ดังนั้นการที่เราสอนน้องหมาของเราให้รู้จักการ “ปล่อย” หรือ “วาง” จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และการที่จะสอนให้น้องหมาทำการ “ปล่อย” หรือ “วาง” ได้ดีที่สุดนั่นก็คือสอนให้รู้จักการแลกกันนั่นเอง ถามว่ามันคืออะไร มันคือการที่เราจะทำให้น้องหมาเลิกสนใจสิ่งที่มันมีอยู่หรือว่าสิ่งที่มีค่าสำหรับมัน (ถึงแม้มันจะดูไม่มีค่าสำหรับคุณก็เถอะ) เพื่อที่มันจะได้สิ่งอื่นตอบแทนกลับไป

เรามาเริ่มกันด้วยการใช้สิ่งที่น้องหมาชื่นชอบอย่างพวกลูกบอลลูกโปรดหรือของเล่นขัดฟันแสนรักเอามาให้น้องหมาเล่น ปกติแล้วผมจะเริ่มฝึกโดยใส่สายจูงไว้ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับน้องหมาของใครที่มักจะแอบหนีคุณไปที่อื่นทันทีที่พวกมันได้อยู่กับของโปรดอย่างพวกของเล่นทั้งหลาย คราวนี้ให้ลองพยายามโดยการให้ของเล่นนั้น ๆ กับน้องหมาตรง ๆ หรือว่าลองโยนให้ห่างไปซัก 2-3 ฟุตตรงหน้ามันแล้วที่นี้ก็ปล่อยให้มันเคี้ยวเล่นซัก 2-3 วินาที หรือไม่คุณก็อาจจะลองเล่นชักเย่อกับมันดูซักหน่อยก็ได้

จากนั้นก็ลองให้สิ่งที่คิดว่ามีค่ามากกว่าของเล่นขึ้นมาอีกหน่อย อย่างเช่น พวกขนมน้องหมา โดยให้คุณยื่นขนมไปตรงหน้าจมูกของพวกมันให้ได้ลองดมกลิ่นดูซักหน่อยแล้วก็รอซักแป๊บ แล้วพอน้องหมาปล่อยของเล่นออกจากปาก ในช่วงนั้นเองคุณก็ต้องเอ่ยคำชมมันทันทีว่า “เก่งมาก!” จากนั้นก็ค่อยวางขนมให้ห่างไปซัก 2-3 ฟุตด้านข้างตัวมันแล้วที่นี้น้องหมาก็จะหันไปกินขนมนั้น

สิ่งสำคัญของการทำแบบนี้อยู่ตรงที่คุณต้องการให้น้องหมาหันเหความสนใจจากของเล่นไปโฟกัสที่ขนม เพราะช่วงเวลานี้แหละที่คุณจะได้มีเวลาที่จะก้มลงเก็บของเล่นนั้น ๆ โดยที่น้องหมาไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำไป แล้วเมื่อน้องหมากินขนมหมดแล้วน้องหมาก็จะกลับมาหาคุณ หลังจากนั้นคุณก็ค่อยให้ของเล่นมันคืน แต่ถ้าหากว่าน้องหมาของคุณรีบกินขนมให้เสร็จอย่างรวดเร็วและหันมาเอาของเล่นคืนก่อนที่คุณจะเก็บมันขึ้นมาล่ะก็ คุณต้องพยายามหาทางแก้ไขอาการหวงของของน้องหมาให้เข้มข้นขึ้นไปอีกหน่อยแล้ว หากเป็นเช่นนั้นคุณจะต้องหาทางที่จะต้องเพิ่มคุณค่าของของมีค่านั้นให้มีมากขึ้นไปอีก อย่าลืมสิว่า น้องหมาต้องให้ความสนใจกับของเอามาล่อไม่ใช่ที่ของเล่น

ถ้าน้องหมาของคุณทำอะไรอย่างรวดเร็วว่องไวมาก ๆ คุณลองเพิ่มของเล่นเป็น 2 ชิ้นดูสิ อย่างตัวผมขณะที่น้องหมาของผมกำลังเคี้ยวลูกบอลลูกโปรดของมันเล่นอยู่ ผมก็จะมีลูกบอลลูกโปรดลูกที่สองเตรียมไว้ให้มัน ผมจะหลอกล่อมันด้วยการเดาะลูกบอลสักสองทีตรงหน้ามัน และทีนี้แหละมันก็จะเปลี่ยนมาสนใจลูกบอลลูกที่สองนี้แล้วมันก็จะปล่อยลูกบอลลูกแรก ตอนนี้แหละที่ผมจะกลิ้งลูกบอลลูกที่สองออกไปอีกทางหนึ่งทันที เพื่อให้มันได้วิ่งตามไปเก็บมา คราวนี้ผมก็จะได้มีเวลาไปเก็บลูกบอลลูกแรกขึ้นมาแล้ว

วิธีการที่ผมได้อธิบายมาทั้งหมดนี้คุณเห็นไหมว่า ผมไม่ได้มีการออกคำสั่งหรือใช้เสียงอะไรในการสั่งน้องหมาของผมเลย แล้วผมก็ไม่ได้พยามยามที่จะไปดึงของเล่นออกมาจากมันด้วย ผมก็แค่รอให้มันตัดสินใจ (ปล่อยของเล่น) เพื่อที่จะได้รางวัลตอบแทนในทันทีที่มันทำได้ ไม่ว่ารางวัลนั้นจะเป็นขนมหรือว่าของเล่นชิ้นโปรดอีกชิ้นหนึ่ง วิธีนี้จะช่วยให้น้องหมาเต็มใจที่จะแลกเปลี่ยนและปล่อยสิ่งของต่าง ๆ ที่มันมีอยู่ เพราะมันรู้ว่ามันจะได้สิ่งอื่นมาแทนและก็จะเป็นผู้ชนะอยู่เรื่อย ๆ นั่นเอง

ถ้าหากน้องหมาของคุณไม่สนใจพวกขนม ลองให้บางอย่างที่ดูมีค่ากับมันมากขึ้นมาหน่อย น้องหมาบางตัวยอมทำตามเพื่อของขบเคี้ยว แต่บางตัวต้องการสิ่งที่อร่อยกว่าอย่างพวกชีสหรือว่าเนื้อไก่ และเมื่อการทำแบบนี้มันได้ผล โดยที่พวกมันรู้ว่าคุณไม่ได้พยายามจะแย่งของมีค่าไปจากมัน พวกมันก็จะให้ความร่วมมืออย่างดีในการปล่อยสิ่งของต่าง ๆ เพราะตอนนี้พวกมันรู้แล้วว่า พวกมันจะได้รางวัลเป็นสิ่งตอบแทน

เมื่อน้องหมาของคุณเรียนรู้ที่จะปล่อยสิ่งของอย่างรวดเร็วแล้ว คราวนี้คุณลองรอสัก 2-3 วินาทีก่อนที่จะให้รางวัลพวกมัน ผ่านไปนานเข้าคุณก็จะสังเกตเห็นได้ว่าน้องหมาจะปล่อยสิ่งของหรือนำสิ่งของมาคืนให้คุณเร็วขึ้น จุดนี้แหละที่น้องหมาจะค้นพบว่านี่เป็นเกมส์ “เมื่อฉันปล่อย ฉันได้รางวัล และฉันก็ได้ของเล่นคืนด้วย!” คราวนี้แหละคุณก็จะสามารถทำให้น้องหมา “ปล่อย” หรือ “วาง” สิ่งของแบบสั่งได้เลยทีเดียว

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝึกหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุนัข สามารถติดต่อได้ที่โทร 091 654 1960 อีเมล info@k9pointacademy.com หรือเว็บไซต์ www.k9pointacademy.com ได้รับรองมาตรฐานจาก Certification Council for Professional Dog Trainers (CCPDT) และ American Kennel Club (AKC) Evaluator.ß

ธิชา/ข่าวภูเก็ต: แปล

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่