ปิดตำนาน “ภูเก็ตเอฟซี” หลังผุดหนี้ฟีฟ่า 83 ล้าน

ฟุตบอล – วันนี้ (28 พ.ย. 60) ผู้บริหารสโมสรฟุตบอลภูเก็ตเอฟซี แถลงข่าวการยุบทีมอย่างเป็นทางการวันนี้ หลังจากได้รับจดหมายแจ้งจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ให้ชำระหนี้สินมูลค่า 83 ล้านบาท ในข้อหายกเลิกสัญญาโดยมิชอบ 3 นักเตะเมื่อ 4 ฤดูกาลที่แล้ว

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันอังคาร ที่ 28 พฤศจิกายน 2560, เวลา 16:34 น.

นายปิติพล นุกูลพานิชย์วิพัฒน์ ประธานสโมสรภูเก็ตเอฟซี และ คุณทิพย์สุนันทา กระจ่าง ที่ปรึกษาสโมสรภูเก็ตเอฟซี ได้ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน ในเวลา 14.00 น. ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต พร้อมขอโทษแฟนบอล "มังกรอันดามัน" ที่ไม่สามารถสานฝันอย่างต่อเนื่อง ด้วยภาระหนี้สินจำนวนมากที่เกิดจากการบริหารในอดีต ทำให้ผู้บริหารชุดปัจจุบันต้องตัดสินใจยุบทีมในที่สุด และจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายปิติพล ระบุว่าตนได้รับจดหมายจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ สำนักงานใหญ่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยที่ทีมบริหารไม่ทราบเรื่องหนี้สินคงค้างจำนวนนี้มาก่อน และตลอดระยะเวลาการบริหารงาน 1 ปีที่ผ่านมาก็ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มาตลอด กระทั่งถูกปฏิเสธเงินสนับสนุนจำนวน 4 แสนบาทครั้งล่าสุด โดยให้เหตุผลว่าทางทีมผู้บริหารต้องชำระหนี้สินจำนวน 83 ล้านบาทดังกล่าว

“ในสัญญาที่ได้เซ็นไว้กับผู้บริหารคนก่อน ตกลงกันไว้อย่างชัดเจนว่า เราจะชำระหนี้คงค้างทั้งหมดที่ทางสโมสรเคยมีไว้กับทางนักกีฬากับสมาคมฟุตบอล โดยไม่มีหนี้ค้างชำระใดใดทั้งสิ้น” นายปิติพล กล่าว

“ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจยุบสโมสร คือทางเราได้รับแฟกซ์จาก FIFA สวิตเซอร์แลนด์โดยตรงว่ามีการฟ้องร้อง จากนักเตะ 3 ท่านที่เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลของ ภูเก็ต เอฟซีมาก่อน คือ อลองโซ่ ซิลวา, มาร์ซิโอ ซานโต๊ส และ โรแลนด์ กูวย์เลร่า ในข้อหายกเลิกสัญญาโดยมิชอบ ซึ่งทั้ง 3 ท่านอยู่ก่อนที่เราจะมารับสิทธิ์ในการบริหารทีม เตะเมื่อ 4 ฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งในการฟ้องร้องครั้งนี้เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ที่ทางเราไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะทางสมาคมกีฬาฯ ก็ยื่นมาว่า ถ้าเราไม่เคลียร์หนี้คงค้างตัวนี้เราก็ไม่สามารถที่จะเตะฟุตบอล T4 ต่อไป แต่มันเป็นหนี้ที่ทางเราได้ตกลงกันแล้วว่าเราเคลียร์กับคนเก่าไปเรียบร้อยแต่เกิดมีตัวนี้โผล่ขึ้นมา เราจึงตัดสินใจว่าไม่สามารถทำต่อไปได้จริงๆ” เขากล่าว

คุณทิพย์สุนันทา อธิบายเพิ่มเติมถึงรายละเอียดหนี้สินว่า ข้อหายกเลิกสัญญาโดยมิชอบ โดยฟีฟ่าตัดสินแล้วเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2017 โดยแบ่งเป็นค่าปรับฟีฟ่าประมาณ 8 แสนกว่าบาท โรแลนด์ 35 ล้าน, อลองโซ่ 24 ล้านและซานโต๊ส 23 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าฟ้องร้องชดใช้ค่าเสียหาย ระหว่าง ปี 2012-2015

ทั้งนี้ นายปิติพล ระบุ ตนไม่มีส่วนรู้เห็นใดใดกับหนี้สินจำนวนดังกล่าว  “ผมไม่ทราบรายละเอียดต้องถามทางผู้บริหาร ประธานสโมสรคนก่อน”

สำหรับปัญหาเรื่องแฟนบอลการสั่งซื้อของ เช่น เสื้อ ผ้าพันคอ และยังไม่ได้รับ ทางผู้บริหารก็ได้ออกมาขอโทษในข้อผิดพลาดและยืนยันว่าได้ฟ้องร้องไปทางผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว

“เราทราบปัญหาเรื่องของที่ระลึก ตอนที่ได้รับการติดต่อจากซัพพลายเออร์ว่าไม่ได้รับเงินที่เราจ่ายไปแล้ว และเราได้ตรวจสอบบัญชีหาหลักฐานและพบใบกำกับภาษี บิลเงินสดต่างๆ เราจ่ายไปแล้ว โดยทราบว่ามีคนปลอมลายเซ็นซัพพลายเออร์แล้วรับเงินไป ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ธุรการดำเนินการเรื่องนี้อยู่คนเดียว เราได้ดำเนินการแจ้งความไปแล้วออกหมายเรียก ซึ่งตำรวจน่าจะออกหมายจับเร็วๆนี้” คุณทิพย์สุนันทา กล่าว พร้อมทั้งระบุว่า ยอดเงินเป็นจำนวนหลายแสนบาท

สโมสรภูเก็ตเอฟซี ก่อตั้ง พ.ศ. 2552 โดยจังหวัดภูเก็ต ได้ส่งทีมฟุตบอลเข้าร่วม ลีกภูมิภาคโซนภาคใต้หรือดิวิชั่น 2 ตามนโยบายรัฐบาลที่ได้ มอบหมายให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดการแข่งขันขึ้น เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับคนทั่วไป อีกทั้งเป็นการ ยกมาตรฐานลีกไทยให้แข็งแกร่ง อันส่งผลให้ทีมชาติไทยได้ก้าวสู่ ระดับโลกต่อไปในอนาคต ภายใต้ฉายา “มังกรทะเล”

“เราตั้งใจที่จะให้ฟุตบอลภูเก็ตไปได้ดี ต้องขอโทษที่ทำตามสัญญาไม่ได้ เงินเป็นจำนวนที่สูงจริงๆ และเราอยากแถลงข่าวให้เป็นบทเรียน คำเตือนคนที่จะมาควบกิจการหรือดูแลสโมสรในไทยลีกให้ตรวจสอบให้ดีก่อน ซึ่งทางเราเองก็ตรวจสอบของเราว่าตรวจสอบอย่างดีในระดับหนึ่งแล้ว กระทั่งได้รับทราบปัญหานี้” นายปิติพล กล่าว

“ถ้าไม่มีปัญหานี้ เราก็คงทำทีมต่อไป ผลงานการจบฤดูกาลที่ผ่านมาเราครองที่ 2 ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ดีในระดับหนึ่งของการเริ่มต้นในปีแรกของเรา ถ้ายังทำต่อไป เชื่อว่าปีหน้าเราได้เลื่อนชั้นแน่นอน เราเตรียมแผนไว้ดีแล้ว แต่ต้องมาเจอเรื่องนี้ทุกอย่างก็ชะงัก เสียดายครับ เราทางก็ทุ่มแรงกายแรงใจและเงินในการทำทีม เราอยากให้ชาวภูเก็ตมีฟุตบอลดูต่อไป”

ผู้บริหาร “มังกรอันดามัน” ชี้ชัดว่าสำหรับนักเตะที่กำลังจะหมดสัญญาทุกรายนั้นได้พูดคุยทำความเข้าใจในการยุบทีมและตกลงชำระเงินในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว โดยนักเตะและผู้เกี่ยวข้องทุกรายเข้าใจ เห็นใจและยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยดี และระบุอีกว่าตลอด 1 ปีที่ผ่านมาทางผู้บริหารได้ลงทุนไปกับทีม มากกว่า 10 กว่าล้านบาท และได้ประสานงานไปยังกับผู้บริหารคนก่อนแต่ไม่ได้รับผลตอบรับใดใดกลับมา

ประธานสโมสร "ภูเก็ตเอฟซี" คนสุดท้าย กล่าวอีกว่า ในอนาคตข้างหน้าอาจมีการทำทีมฟุตบอลของชาวภูเก็ตอีกครั้ง แต่ต้องตรวจสอบดและศึกษาในรายละเอียดมากขึ้น

“เราสามารถตั้งสโมรสรฟุตบอลใหม่ได้ แต่ต้องเริ่มจาก T5 แต่ในตอนนี้ขอพักศึกษาให้ละเอียดกว่านี้ อนาคตข้างหน้าอาจจะมีการจัดลีกฟุตบอลเล็กๆ ไปก่อน ทางเราพร้อมหากจะดำเนินการฟอร์มทีมใหม่ แต่ต้องขอเวลาตั้งตัวสัก 1-2 ปีก่อน ในการเตรียมตัวและศึกษาให้มากกว่านี้ เพื่อแฟนบอลจะได้ไม่ผิดหวังในการกลับมาอีกครั้งของทีมฟุตบอลภูเก็ต” นายปิติพล กล่าวทิ้งท้าย

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่