สำหรับการประชุมในวันนี้ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประชุมร่วมกับกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์จาก 16 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย, ลักเซมเบิร์ก, รัสเซีย, เกาหลี, เนเธอแลนด์, สวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, ออสเตรีย, เม็กซิโก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ชิลี, นอร์เวย์, เยอรมนี และเดนมาร์ก
ในที่ประชุมนายภัคพงศ์ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 ของจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านมา ให้ที่ประชุมรับทราบ ว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวน 227 ราย ขณะนี้รักษาหายกลับบ้านทั้งหมดแล้ว และปัจจุบัน ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มติดต่อกันเป็นเวลา 10 วัน
ภายหลังจากที่มีการตรวจพบเชื้อในผู้ป่วยรายล่าสุด ลำดับรายที่ 227 เป็นหญิงชาวจีน อายุ 49 ปี อาชีพครูสอน ออนไลน์ เดินทางกลับมาจากประเทศจีน เมืองเซี่ยงไฮ้ (เดินทางมาพักที่ภูเก็ตช่วงประมาณกลางเดือนมีนาคม 2563) เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ติดเชื้อรายที่ 226 พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลเชิงทะเล จากรายงานสถานการณ์โควิด-19 วันที่ 25 พ.ค. จากข้อมูล สสจ. ณ วันที่ 24 พ.ค.
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงในที่ประชุมเพิ่มเติมอีกว่า ภูเก็ตได้อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตเดินทางกลับประเทศแล้วกว่า 2,827 คนสู่ 24 ประเทศ
สำหรับแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและประเทศ ปชส.ภูเก็ต รายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม โดยการกู้เงินจำนวน 1 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น แผนงานด้านการสาธารณสุข 45,000 ล้านบาท แผนงานโครงการเยียวยา 555,000 ล้านบาท และกรอบวงเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ/สังคม 400,000 ล้านบาท
โอกาสนี้กงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ ได้ขอบคุณจังหวัดภูเก็ตที่ให้การดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างดี โดยนักท่องเที่ยวยังคงมีความเชื่อมั่นและอยากจะเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตอีก เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งต้องการให้จังหวัดภูเก็ตจัดกิจกรรมนำคณะทูตจากประเทศต่าง ๆ เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัด เพื่อให้เห็นภาพแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว
ในเรื่องนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า ทางจังหวัดได้เตรียมโครงการดังกล่าวไว้แล้ว และได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนข้อเสนอที่อยากจะให้กระทรวงการต่างประเทศมีการอำนวยความสะดวก เกี่ยวกับการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เกิน 30 วัน ในกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาใช้บริการด้านการแพทย์ในประเทศไทย หากมีการจัดทำโครงการในการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ เมดิคัล ฮับ (Medical Hub) สำเร็จเกิดเป็นรูปธรรม จังหวัดภูเก็ตจะดำเนินการร่วมกับสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวจังหวัดภูเก็ต เพื่อเสนอต่อกระทรวงการต่างประเทศให้พิจารณาต่อไป
