ปคม.ทลายแก๊งต่างชาติบังคับใช้แรงงานเด็กขายของหาดป่าตอง พบเด็กกัมพูชา 17 คน

ภูเก็ต – กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นทลายแก๊งต่างชาติค้ามนุษย์ บังคับใช้แรงงานเด็กขายของชายหาดป่าตอง พบเด็กชาวกัมพูชาเกือบยี่สิบคน โดยมี พล.ต.ท.จารุวัฒน์ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีและครอบครัว(ศพดส.ตร) เป็นผู้นำแถลงข่าว เมื่อเวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ศปก.ภ.จว. ภูเก็ต (ชั้น 2) วานนี้ (23 ก.พ.)

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563, เวลา 09:43 น.

ตามนโยบายปราบปรามจับกุมกลุ่มเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์บังคับการใช้แรงงานเด็กแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ของ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์สนธิกำลังร่วมกับ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีและครอบครัว(ศพดส.ตร) คณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC), คณะทำงานต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย (TATIP) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พัฒนาสังคมจังหวัดภูเก็ต บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมร่วมกันเปิดปฏิบัติการ ปิดล้อมตรวจค้น ทลายเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์ต่างชาติเข้ามาหากินในประเทศไทย รวมกลุ่มเช่าเด็กจากพ่อแม่แล้วนำมาบังคับใช้แรงงานขายของบริเวณหาดป่าตองให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากขายได้เงินไม่ถึงจำนวนที่ตั้งไว้ ก็จะทำร้ายร่างกายเด็กบางรายทนไม่ไหวหลบหนีกลับประเทศ โดยในแต่ละกลุ่มจะมีหัวหน้าคอยดูแลเด็กในสังกัดตนเอง เด็กบางรายถูกขายสิทธิให้ไปอยู่กับกลุ่มอื่นวนเวียนเรื่อยไป ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศไทย ปคม.จึงสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมกลุ่มดังกล่าว

ด้วยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ได้รับคำสั่งการจาก พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ให้ดำเนินการสืบสวนกรณีมีการนำเด็กมาบังคับใช้แรงงานในพื้นที่ หาดป่าตอง อ.กะทู้ จว.ภูเก็ต จากการลงพื้นที่สืบสวนพบว่า มีการนำเด็กสัญชาติกัมพูชาและเวียดนามมาเดินเร่ขายแว่นตา หรือ พวงมาลัย ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบริเวณชายหาดป่าตอง เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนทราบว่า มีกลุ่มต่างชาติทำการเช่าเด็กจากบิดามารดาผู้ปกครอง โดยอ้างกับบิดามารดาผู้ปกครองว่าเป็นงานสบาย ได้เงินเดือนละ 5,000 บาท จากนั้น พาเด็กเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ แล้วเดินทางต่อมายังจังหวัดภูเก็ตพักอาศัยอยู่บ้านเช่า และจะบังคับให้เด็กขายสินค้าประเภทแว่นตา หรือ พวงมาลัย ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบริเวณชายหาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จว.ภูเก็ต โดยเด็กต่างชาติบางรายมีอายุต่ำกว่า 15 ปี ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ซึ่งบางรายทำงานตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน โดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด มีเพียงได้รับอาหารและที่พักอาศัย

หากเด็กขายสินค้าได้ไม่ถึงกำหนด (3,000 บาทต่อวัน) ก็จะถูกตีด้วยไม้แขวนเสื้อบ้าง ใช้กำลังทำร้ายร่างกายบ้าง และถูกบังคับให้ขายสินค้าจนถึงจำนวนที่กำหนดให้ เด็กบางรายถูกนำไปให้ทำการเช่าสิทธิต่อกับกลุ่มอื่นวนเวียนไป เด็กบางรายถูกทำร้ายร่างกายจนทนไม่ไหวหลบหนีออกจากบ้านพักเดินทางกลับประเทศเกิดบ้าง หลบหนีไปทำงานที่จังหวัดอื่นบ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. จึงทำการติดตามเด็กที่เคยทำงานอยู่กับกลุ่มดังกล่าว จนในที่สุดได้พบเด็กที่เคยตกเป็นผู้ถูกกระทำ จึงร่วมทำการสอบปากคำกับสหวิชาชีพและทำการคัดแยกผู้เสียหาย ปรากฏว่า เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยการบังคับใช้แรงงาน จึงได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิดและหมายค้นเพื่อค้นหาพยานหลักฐานและช่วยเหลือเด็กที่คาดว่าจะตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์

ซึ่งจากพฤติการณ์การกระทำความผิดดังกล่าว ทำให้ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ต่างชาติบังคับใช้แรงงานเด็ก โดยได้นำหมายค้นทำการปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 4 จุด ดังนี้

จุดที่ 1 บ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ ซอยศิลาอุทิศ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ทำการจับกุมนาย งอ ซุน หรือ งอง ซัน หรือ NGO SUN อายุ 33 ปี (ถือเลขบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย) ที่อยู่ 55/792 หมู่ 2 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จว.ภูเก็ต ผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลอาญา ลงวันที่ 21 ก.พ. 63 และ น.ส.สุพัตรา เจริญสุข อายุ 22 ปี ที่อยู่ 37/4 หมู่ 3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลอาญาลงวันที่ 21 ก.พ. 63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกันไว้ โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการโดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการโดยกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี,ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อหากำไร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและร่วมกันบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด”พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านเช่าดังกล่าวจำนวน 3 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง

จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 23 ซอยพระบารมี 1 ต.ป่าตอง พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 8 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง

จุดที่ 3 บ้านเลขที่ 2/12 ซอยพระบารมี 1 ต.ป่าตอง พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 3 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง

จุดที่ 4 บ้านเลขที่ 16/6 ซอยนาใน 2 ต.ป่าตอง พบเด็กพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 3 คน ตรวจยึดอุปกรณ์การทำพวงมาลัยและพวงมาลัยได้จำนวนหนึ่ง

รวมจำนวนเด็กที่พบทั้งสี่จุดจำนวน 17 คน จึงได้นำตัวไปที่บ้านพักเด็กจังหวัดภูเก็ตเพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นบุตรของผู้ใด และคัดแยกว่าผู้ใดเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตามหมายจับได้ดำเนินการซักถามขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและช่วยเหลือเด็กที่คาดว่าจะถูกบังคับใช้แรงงานนอกจากนี้ ยังพบบุคคลต่างด้าวที่น่าจะอยู่ในราชอาณาจักรไทยผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง ซึ่งจักได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวอีกว่า นับจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์จะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม และบ้านพักเด็กจังหวัดภูเก็ต เพื่อทำการช่วยเหลือคัดแยกเด็กที่ตรวจพบ เพื่อฟื้นฟูเยียวยาทางจิตใจ และทำการสอบสวนขยายผลหาผู้ที่ร่วมกระทำความผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่