นายกเล็กเชิงทะเลชี้แจงข้อโต้แย้งกรณีปรับภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ 19 ล้านบาท

ภูเก็ต – นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีดำเนินการโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลบริเวณหาดสุรินทร์ หลังจากเกิดปัญหาประชาชนในพื้นที่คัดค้านการก่อสร้าง โดยให้เหตุผลว่าการก่อสร้างเขื่อนดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและระบบนิเวศหาดทรายของชายหาดสุรินทร์

ข่าวภูเก็ต

วันพฤหัสบดี ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563, เวลา 12:01 น.

งบการก่อสร้างซุ้มประตูและเขื่อนจากงบรวม 19 ล้าน จะถูกนำไปใช้ในการปรับปรุงถนนและภูมิทัศน์โดยรอบ ภาพ อบต.เชิงทะเล

งบการก่อสร้างซุ้มประตูและเขื่อนจากงบรวม 19 ล้าน จะถูกนำไปใช้ในการปรับปรุงถนนและภูมิทัศน์โดยรอบ ภาพ อบต.เชิงทะเล

วันนี้ (27 ก.พ.) นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่าจากกรณีที่ นายศศิน เฉลิมลาภ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าพบหารือ กับนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยในเรื่องการแก้ปัญหาการก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลบริเวณหาดสุรินทร์ และได้เสนอแนะให้ปรับรูปแบบของโครงการนั้น ทางผู้รับผิดชอบกำลังดำเนินการตามขั้นตอน และจะนำเสนอแผนให้กับทางจังหวัด เพื่อพิจารณาอนุมัติและเริ่มการก่อสร้างต่อไป

สำหรับโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลบริเวณหาดสุรินทร์ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต รายงานว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นมาจาก กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการอนุมัติงบประมาณโครงการจำนวน 38,750,000 บาท มีการทำสัญญาจ้าง เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 59 ระหว่างกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเป็น (ผู้ว่าจ้าง) กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัดประยงค์ศิลป์การโยธา (ผู้รับจ้าง) ทำสัญญาจ้างตามคำสั่งกรมโยธาธิการและผังเมือง ลงวันที่ 19 มิ.ย. 58

ต่อมาในขณะที่ผู้รับจ้างดำเนินโครงการไปตามสัญญา ก็ได้เกิดปัญหาเนื่องจากประชาชนในพื้นที่คัดค้านการก่อสร้างเขื่อน ซึ่งในขณะนั้น นายศศิน ในฐานะที่ปรึกษาด้านการกัดเซาะชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรม ทช.ก็ได้ลงพื้นที่เดินสำรวจบริเวณชายหาด บริเณที่จะมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมกับเน้นย้ำว่าโครงการสร้างเขื่อนดังกล่าว คือการทำลายทรัพยากรชายฝั่งอย่างรุนแรง (อ่านเพิ่มเติม คลิก) อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านหลายสิบรายรวมตัวกัน เพื่อทวงถามข้อมูลการก่อสร้างเขื่อนดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่รัฐ กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯจึงได้ดำเนินการระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าว (อ่านเพิ่มเติม คลิก) พร้อมกำหนดแผนในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้น จะปรับรูปแบบการก่อสร้าง เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการของการปรับปรุงแบบ โดยเมื่อดำเนินการปรับปรุงแบบแล้วเสร็จ กรมโยธาธิการและผังเมือง จะแจ้งให้จังหวัดภูเก็ตและสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดภูเก็ตทราบต่อไป

ซึ่งจากการเข้าพบพ่อเมืองภูเก็ตเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายศศิน ก็ได้เสนอแนวคิดว่าไม่ควรทำเขื่อน แต่อาจจะปรับรูปแบบโดยสร้างเขื่อนลักษณะที่มีแนวถอยร่นเข้ามาด้านใน และควรจัดทำโครงการในลักษณะการปรับ ภูมิทัศน์ให้สวยงาม เพื่อที่จะสามารถป้องกันตลิ่งได้และไม่กระทบกับชายหาด และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว โดยผนวกกับโครงการปรับภูมิทัศน์ ซึ่งเป็นงบกลุ่มจังหวัดจำนวน 19 ล้านบาท ที่กำลังทำประชาพิจารณ์อยู่ในขณะนี้

สำหรับโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ในครั้งนี้ นายมาแอน อธิบายเพิ่มเติมว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลบริเวณหาดสุรินทร์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ งบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมืองระยะทางประมาณ 380 เมตรขนานชายหาดด้านทิศใต้ และงบจังหวัด 19 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างทางด้านทิศเหนือของชายหาด ระยะทางประมาณ 100 เมตร ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนงานคือ เขื่อน รั้ว และซุ้มประตู

“งบประมาณของกรมในส่วนที่เราจะดำเนินการต่อไปคือ การปรับแผนการก่อสร้างในส่วนของงบจังหวัด 19 ล้านบาท ส่วนโครงการของกรมฯ ทางกรมฯจะเป็นผู้ดำเนินการเราไม่สามารถก้าวล่วงได้ สำหรับโครงการงบประมาณของจังหวัดที่เราจะมีการดำเนินการต่อไปนั้น เราจะมีการตัดในส่วนของการก่อสร้างซุ้มประตูและเขื่อนออกไป และนำเงินส่วนนั้นไปใช้ในการปรับปรุงถนนและภูมิทัศน์โดยรอบ อาทิ ลานกิจกรรม, ทางเท้า และลานจอดรถ โดยจะใช้งบประมาณไม่เกิน 19 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะได้เร่งดำเนินการเพื่อเสนอทางจังหวัดต่อไป” นายมาแอน กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่