ดีเอสไอผนึกกำลังนำเครื่องจักรหนักรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกที่สาธารณะหาดเลพัง

ภูเก็ต - กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผนึกกำลังกว่า 22 หน่วยงาน นำเครื่องจักรหนัก เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่ดินสาธารณะ 178 ไร่ ที่บริเวณชายหาดเลพัง หลังยืดเยื้อมานานหลายปี

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 30 กันยายน 2565, เวลา 16:57 น.

วันนี้ (30 ก.ย.) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, ผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน  และหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดภูเก็ต พร้อมกำลังคน อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรกล เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน 178 ไร่ หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 หาดเลพัง ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต 

นายปวีณ กุมาร ผู้อำนวยการ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.ย ที่ผ่านมา สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต ได้ปิดประกาศให้ผู้ที่ทำการปลูกสร้างในที่ดินของรัฐจำนวน 4 จุด ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งศาลจังหวัดภูเก็ตได้มีหมายบังคับคดีให้โจทก์และบริวาร ขนย้ายทรัพย์สินและรื้อถอนออกจากที่ดินของรัฐ และสำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ตกำหนดให้รื้อถอนภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 เมื่อคดีสิ้นสุดต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

"หลังจากปิดประกาศเมื่อ 12 ก.ย. 65 ให้เวลาขนย้ายของภายใน 15 วัน ในประกาศระบุว่าลงพื้นที่วันที่ 30 ก.ย.65 จึงมาตามสัญญาเพื่อมารื้อถอน ซึ่งตรงนี้มีคดีเกี่ยวพันหลายคดี ในส่วนของสำนักงานบังคับคดีมี 4 ส่วน คดีนี้โจทก์ มี  6 คน ที่ฟ้องและศาลพิพากษาให้ทั้ง 6 คนแพ้คดี” นายปวีณ กล่าว

“การรื้อถอนใน 4 ส่วน วันนี้จะดำเนินการรื้อถอนให้หมด และต้องไม่มีคนอยู่แล้ว ถ้านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปใครอยู่ในพื้นที่ 178 ไร่นี้ถูกแจ้งข้อหาบุกรุกทั้งหมด รวมถึงระหว่างนี้ถ้าตำรวจพบเจอคนอยู่ในพื้นที่ สามารถเข้าจับกุมข้อหาบุกรุกทั้งหมดเช่นกัน นับตั้งแต่ 30 ก.ย. จะไม่มีคนอยู่บนพื้นที่ 178 ไร่อีกต่อไป และจะแบ่งงานเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งคือศาลมีคำพิพากษาแล้ว ส่วนนี้วันนี้จะรื้อถอนให้แล้วเสร็จ อีกส่วนที่ศาลไม่ได้พิพากษา ถึงวันนี้จะเอาคนออกจากพื้นที่ให้หมด ส่วนสิ่งปลูกสร้างที่ยังคาอยู่ ทาง อบต.เชิงทะเล ต้องแจ้งให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่รื้อถอนตามกำหนดเวลา หากไม่รื้อถอน ทาง อบต.เชิงทะเล จะลงมารื้อถอนเองเป็นคนละกฎหมายกัน และเมื่อมาวันนี้เจออีก 2 คดีที่เคยปิดประกาศขับไล่ไว้แล้ว บัดนี้พ้น 15 วันแล้วยังมีอยู่ จะรื้อด้วยในคราวเดียวกัน การทำงานในวันนี้บูรณาการเจ้าหน้าที่จาก 22 หน่วยงาน จะทำให้สำเร็จให้ได้ เน้นรื้อให้หมดและต้องไม่มีคนเหลืออยู่" นายปวีณ กล่าว 

ด้านนายไตรยฤทธิ์ กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษบูรณาการร่วมกับจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ 178 ไร่  โดยมีบางแปลงที่มีคำสั่งศาลเรียบร้อยแล้วให้บังคับคดีเข้ารื้อถอน การดำเนินการร่วมกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งผู้แทนมาเข้าร่วมกัน 

“ผู้มีอำนาจรื้อถอนเข้าทำการรื้อถอน ส่วนดีเอสไอเข้ามาในฐานะสังเกตการณ์ ให้กำลังใจความเข้มแข็งความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ ช่วยทวงคืนทรัพยากร ธรรมชาติ อันมีค่ายิ่ง ถ้าเฉลี่ยตารางวาละ 1 ล้านบาท ถ้าราคาซื้อขาย 178 ไร่ ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ต้องกลับเป็นสมบัติส่วนรวมของประเทศชาติ มิใช่ของผู้ใดผู้หนึ่งที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และในพื้นที่ 178 ไร่ ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษหมดแล้ว แต่มีบางแปลงมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินการถึงที่สิ้นสุด แต่แปลงใดที่มีเบาะแสหรือมีข้อมูลมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมใน 178 ไร่นี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษต้องดำเนินการอย่างจริงจังจะเข้าตรวจสอบดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด” นายไตรยฤทธิ์ กล่าว

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวต่อไปอีกว่า จากสังเกตการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่มีรถแบคโฮมารื้อถอนอาคาร ดูแล้วมีการลงคอนกรีตแน่นหนา ไม่มีการลงเสาเข็มทำให้การรื้อถอนง่ายมาก คิดว่าอีกประมาณ 1 เดือนในที่ดินนี้จะมีการฝังกลบคอนกรีตลงดินให้มีความลึก และตรงนี้จะเป็นหาดทรายสวยสะอาด  

“ถ้าที่ดินมีการให้ออก นสล. หรือหนังสือสำคัญที่หลวงเป็นที่ประชาชนเข้าใช้ได้ ทางท้องถิ่นจัดระเบียบให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อชุมชนเพื่อสังคมของเรา เชื่อว่าการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง บูรณาการที่ดีและเข้มแข็งของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่น่าจะมีใครกล้าเข้ามาบุกรุกในที่แห่งนี้ หากมีก็ดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังเข้มแข็ง " นายไตรยฤทธิ์ กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่