ผบช.ภ.8 สอบบังณี ผู้ต้องหาฆ่า 2 ศพ พ่อค้าแม่ค้ากุ้งตลาดเกษตร ก่อนแถลงข่าวแบบไม่มีผู้ต้องหา

ภูเก็ต – วันนี้ (10 มกราคม 2565) ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส..ภ.8, พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 และ พ.ต.อ.วีรวัฒน์ จันทรวิจิตรรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวคดีนายมณีนพ หรือ บังณี ฆ่าพ่อค้าแม่ค้ากุ้งตลาดเกษตร

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 10 มกราคม 2565, เวลา 11:46 น.

โดยก่อนที่จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ทำการสอบสวนนายมณีนพด้วยตนเองภายเป็นเวลาประมาณ 20 นาที ภายในห้อง ศปก.ชั้น 2 ของ สภ.เมืองภูเก็ต และไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาลงมาแถลงข่าวที่บริเวณชั้นล่างด้านหน้า สภ.

พล.ต.ท.อำพล เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาได้ที่จังหวัดสงขลาด้วยความร่วมมือของ ตำรวจภูธรภาค 8 ภาค 9 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจกองปราบปราม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากจำนนด้วยหลักฐานพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิด ในส่วนอาวุธปืนผู้ต้องหาได้โยนทิ้งทะเลในระหว่างทางหลบหนีจากเกาะภูเก็ตไปจังหวัดกระบี่ ซึ่งไม่มีผลต่อรูปคดี ด้านการดำเนินคดีในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น และ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในที่สาธารณะ

เหตุเกิดที่ แผงขายกุ้ง ตลาดสดสาธารณะ 2 (ตลาดเกษตร) ถนนอ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 65 เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้ต้องหาคือ นายมณีนพ หมีทอง อายุ 49 ปี อาชีพ พ่อค้าขายกุ้ง ที่อยู่ ต.รัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 2 ราย คือ นายศรายุธ ถิ่นสถาน อายุ 57 ปี และนางต้อย ลิมปนานุรักษ์ อายุ 53 ปี ผู้บาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย นายเกรียงไก่ ลิมปนานุรักษ์ (บาดเจ็บสาหัส), นางอาพร ถิ่นสถาน (บาดเจ็บสาหัส) และนายพรชัย ลิมปนานุรักษ์ (ได้รับบาดเจ็บ)

พบพยานหลักฐานและของกลางในคดีได้แก่ ลูก (หัว) กระสุนปืน จำนวน 3 หัว (เก็บได้ในที่เกิดเหตุ) และรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ที่ผู้ต้องหาใช้ในการกระทำผิด และภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ

พฤติการณ์แห่งคดีก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ ผู้ต้องหา และกลุ่มผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ มีอาชีพค้าขายกุ้งสด บริเวณตลาดเกษตรที่เกิดเหตุในคดีนี้ โดยมีแผงขายกุ้งอยู่ติดกันมาหลายปี มักมีปัญหากระทบกระทั่งกัน เรื่องการตั้งราคาสินค้าตัดราคากัน การแย่งลูกค้าตัดหน้ากัน เป็นประจำ ทำให้เกิดความบาดหมางโกรธเคืองกันบ่อยครั้ง

จนในวันเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกันระหว่างคู่กรณีภรรยาผู้ต้องหากับกลุ่มของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เชื่อว่าผู้ต้องหาเกิดอารมณ์ความโกรธแค้น ผู้ต้องหาจึงได้เดินทางออกจากตลาดเกษตรกลับไปที่บ้านพัก เตรียมอาวุธปืนพกแบบลูกโม่ 1 กระบอก พร้อมขับรถยนต์ของกลางกลับมายังที่เกิดเหตุ เดินลงจากรถเข้ามายังจุดเกิดเหตุ ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในทันที 5-6 นัด จากนั้นได้เดินกลับไปขึ้นรถยนต์ของกลาง ขับ
หลบหนีไป

จากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีโดยนำรถยนต์ของกลางไปจอดทิ้งไว้บริเวณบ้านแหลมหิน ขึ้นเรือโดยสารไปยังแพขายอาหารบังหมุด และได้ว่าจ้างเรือโดยสารเดินทางต่อไปขึ้นที่ท่าเรือหาดคลองม่วง จังหวัดกระบี่ และเดินทางไปขึ้นรถยนต์โดยสารที่ บขส. จว.กระบี่ เดินทางด้วยรถยนต์ตู้โดยสารไปยัง อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในคดีนี้ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. เวลา 18.00 น. ที่ อ.หาดใหญ่ ชั้นจับกุมและสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายและผู้บาดเจ็บ และโยนอาวุธปืนทิ้งในทะเลระหว่างหลบหนี เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ตามกฎหมายต่อไป

โดยในการแถลงข่าวช่วงเช้าวันนี้ ทางญาติผู้เสียชีวิตได้มอบดอกไม้ให้กำลังใจแก่เจ้าที่ต่อ พล.ต.ท.อำพล และผบช.ภ.8 ได้รับปากว่าจะดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด ขอให้ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่ต้องกังวล หากเกิดกรณีหวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัวแล้วจะมาทำร้าย ขอยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคอยดูแลกันอย่างดี

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่